Article

“มารยาทในคอนเสิร์ต” ทำยังไงไม่ให้ปัญหาเกิด หรือจะละเมิดเพื่อให้คอนเสิร์ตกร่อย

หัตถาครองพิภพ April 01, 2013

 
        เริ่มต้นหัวประเด็นบทความในวันนี้มาก็เป็นเรื่องมารยาท (อีกแล้ว)  ซึ่งพอขึ้นเรื่องนี้กับนิสัยของคนไทยทั่วๆไปแล้ว เป็นเรื่องที่หนีกันไม่พ้นและห้ามกันยากมากๆจริงๆ  เพราะคนเรามันร้อยพ่อพันแม่  คนที่ได้รับการศึกษา การเลี้ยงดู และสภาพสังคมที่เกิดและเติบโตมานั้น  แต่ละคนแตกต่างกันมากๆ  ดังนั้นเรื่องมารยาท และจิตสำนึกของคนในประเทศเรานั้น  คงต้องขอบอกและยอมรับความจริงกันว่า   ยังมีอยู่น้อย และน้อยคนมาก  แต่ก็ไม่ใช่ไม่มีเลย   ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคน ที่คิดดีทำดี และมีจิตสำนึก  มีความเกรงใจ และ “มารยาท” ต่อผู้อื่น   ควรที่จะช่วยกันกระตุ้น และเผยแพร่ ส่งต่อ และ ช่วยกัน  “ทำ”  ให้มันเป็นแบบอย่างและมาตรฐานที่ดีๆให้แก่สังคม เรื่องนี้ก็คงต้องช่วยๆกันครับ
 
       ทีนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นนี้กันต่อ ลึกลงไปอีก  ก็คือในเรื่องราวของมารยาทที่ควรจะมีในคอนเสิร์ต นั่นล่ะครับ  ทำยังไงถึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ชมที่ดี   เรื่องนี้ส่วนตัวสำหรับผู้เขียนบทความแล้ว  เป็นเรื่องหลักและเรื่องแรกที่ติดอยู่ในหัวของผู้เขียนอยู่แล้ว  เพราะผมเป็นพวก ไม่ชอบรบกวนคนอื่น  และก็ เกลียดเป็นอย่างยิ่ง  ถ้าคนอื่นจะมารบกวนหรือรุกรานความเป็นส่วนตัว  หรือความสงบของเราเอง  และอีกอย่างด้วยความเกรงใจ  ซึ่งเป็นสิ่งดีๆสิ่งหนึ่งที่คนไทยมี  มันจะส่งผลให้มารยาทมันตามมาด้วยแบบเงาตามตัว  ถ้าเราคิดอยู่ในหัวเสมอว่า  เราควรจะเกรงใจผู้อื่น  ในทุกๆการกระทำ ไม่ให้มันไปรบกวนหรือเดือดร้อนเขา   ถ้าทุกๆคนคิดถึงคนอื่นๆ หรือสังคมรอบข้างมากกว่าตัวเองแล้ว  สังคมมันก็จะน่าอยู่ มีระเบียบเรียบร้อยแน่ๆ เพราะต่างคนต่างมีมารยาทต่อกัน ..   แต่ความเป็นจริง  หลายๆคนก็ยังนึกถึงตัวเอง และไม่สนใจคนรอบข้างอยู่  ดังนั้นวันนี้เราจะมาเจาะกันว่า  เรื่องใดบ้างที่ควรทำ  เรื่องใดบ้างที่ไม่ควรทำเวลาดูคอนเสิร์ต
 
       แรกสุดที่ผมนึกได้  ผมซีเรียสเรื่องบุหรี่ก่อน  คือ ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละเคสจะต้องดูว่า  สถานที่และลักษณะของคอนเสิร์ตนั้น เป็นแบบไหน  แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจะสาปส่งก่อนเพื่อนคือ  การสูบบุหรี่ในบริเวณชุมชน   ไม่ว่าจะในคอนเสิร์ตแบบไหน  คุณก็ควรจะห้าม  ถ้าทำได้ อดกลั้นไปสูบคนเดียวหลังบ้าน  หรือเวลาจบงาน นอกงาน หนีไปสูบใกล้ๆใต้ต้นผักชี  จะเป็นพระคุณแก่สุขภาพของคนโดยรอบมาก   เรื่องสูบบุหรี่นี่คือหนักที่สุด  เพราะคนอื่นเขาไม่ได้สูบบุหรี่เหมือนคุณ  ไม่ได้หลงใหลได้ปลื้มกับกลิ่นบุหรี่อันโอชะของสุขภาพปอดพวกคุณ  ไม่ว่าจะอยู่ห่างแค่ไหน  ถ้าใกล้ชุมชน ใกล้ที่คนอยู่  และในสถานที่รวมอย่างคอนเสิร์ต  คุณสูบ  คนอื่นก็ต้องสูดอยู่ดี เพราะฉะนั้น   ข้อนี้  ขอลิสต์หมายหัวบัญชีดำก่อนเลยอย่างแรกว่า  ถ้าไป ก็ไม่ควรสูบ เก็บไปสูบคนเดียวตอนขากลับที่ไหนก็ได้สักที่คนเดียว
 
       ของมึนเมา .. อันนี้ก็อีกอัน  ถ้าเป็นไปได้  พวกคุณๆสิงห์นักดื่มทั้งหลาย  ไม่จำเป็นก็อย่ากินเหล้าไปดูคอนเสิร์ตเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตวัยรุ่น หรือคอนเสิร์ตชิลริมทะเล  หรือที่ไหนๆก็ตาม  เพราะนอกจากว่า  กลิ่นเหล้า ก็มีส่วนทำให้คนรอบข้างของคุณรังเกียจแล้ว   สติสัมปชัญญะที่คุณอาจจะคุมตัวเองไม่อยู่  ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาที่ทำให้คนอื่นต้องลำบากหรือมีเรื่องมีราวมาแล้ว   เห็นในทุกๆที่ ซึ่งเวลาเจอคนกินเหล้าพวกนี้ ผมก็สาปส่งเหมือนกัน และพยายามหนีห่างให้ไกลๆ  เพราะไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรบ้าง  อันตรายสุดๆ  เหล้าก็ขึ้นชื่อว่าน้ำเปลี่ยนนิสัยอยู่แล้ว แถมกินไปก็ทำให้ประสาทการรับรู้ด้อยลงไป  แล้วไอ้คนกินมันจะไปสามารถเสพความสุขจากคอนเสิร์ตได้อย่างเต็มที่ได้อย่างไร  และที่สำคัญ  ไอ้การตีกันในคอนเสิร์ตร็อคต่างๆของเด็กวัยรุ่น  เท่าที่เห็นก็เพราะไอ้พวกนี้มันดื่มย้อมใจกันก่อนเข้าไปดูคอนเสิร์ตกันทั้งนั้น .. นี่คือสาเหตุที่ประเทศไทยยังไม่พัฒนาส่วนนึงละครับ เพราะแอลกอฮอล์นี่แหละ  ทำให้คอนเสิร์ตดีๆบางที่ถึงกับล่มและยกเลิก  อันจะพลอยให้คนดีๆที่เขาอยากไปดูคอนเสิร์ต  ออกอาการเซ็งไปด้วยเพราะลูกหลงจากพวกคุณนี่ละ
 
       อันต่อมาคือ พวกเล่นโทรศัพท์ .. อันนี้ถ้าใช้แบบมีมารยาท เช่น ถ้าไปอยู่ในคอนเสิร์ตที่ต้องใช้สมาธิ ต้องใช้หูฟังเพลงแบบเน้นๆ  การพูดคุย การใช้โทรศัพท์ของคุณ  ก็จะไปรบกวนสมาธิและอรรถรสของคนอื่น คล้ายๆเวลาคนดูหนังในโรงแล้วเจอผีไอโฟนนั่นแหละครับ  ตรงนี้สำคัญมากสำหรับคอนฯที่อยูในห้องประชุมหรือพื้นที่ปิด และมีความsensitiveสูงในเรื่องของเสียง  ถ้าเป็นไปได้ ไม่ใช่ไม่ให้ใช้เลย  แต่ควรต้องรู้มารยาท  ถ้ามีธุระสำคัญ รับสาย พูดให้เบาที่สุด และรีบวางโดยเร็ว  (เป็นไปได้ก้มหัวขอโทษคนรอบๆข้างด้วยก็ดี แหะๆ)  อีกอย่างหนึ่ง  ซึ่งคนหลายๆคนในสมัยนี้  ละเลย และคิดว่ามันไม่เป็นปัญหา  แต่จริงๆ “โคตรเป็นปัญหาเลย”  นั่นก็คือ “แสงไฟ”  จากหน้าจอสมาร์ทโฟนทั้งหลายของพวกท่าน  ที่ไม่ว่าจะคอนเสิร์ตไหนๆ ไอ้แสงพวกนั้นมันจะแยงตาคนที่นั่งแถวเดียวกัน หรือนั่งด้านหลังของท่านอย่างแน่นอน  อย่าคิดว่ามันไม่รบกวนคนอื่น ต้องคิดตรงนี้เยอะๆหน่อยครับ  แสงไฟโทรศัพท์นี่ก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อเช่นกัน
 
       คอนเสิร์ตประเภทมิวสิคเฟสติวัล ที่ส่วนมากมักจะจัดในลานOpen Air ส่วนมากพวกนี้มักมีพื้นที่เยอะ และให้อิสระคนดูได้เลือกตำแหน่งยืนกัน และส่วนมากแนวเพลงที่จัดOpen Air ก็จะต่างจากพวกจัดในฮอลล์มากนัก ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงร็อค  เพลงแดนซ์  อะไรที่แรงๆและขยับแข้งขากันได้  ซึ่งอย่างหนึ่งที่สำคัญมากก็คือ มารยาทในการเต้น หรือ พวกออกท่าออกแข้งขานี่ละครับ  เพราะถ้าไม่ระวัง  กระทบกระทั่งกับคนรอบข้างโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ  ก็อาจจะได้เท้ากลับไปนอนกอดที่บ้านเพิ่มอีกสองถึงสี่คู่ก็เป็นได้.. น่ากลัวจริงๆนะครับแหม่..  ซึ่งจุดนี้มันจะไปเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมการกระโดดแท็ก การเล่นบอดี้เซิฟอะไรของพวกฮาร์ดคอร์ พวกอีโม  ซึ่งก็อยากให้เล่นกันด้วยความระมัดระวังและถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เล็กๆน้อยๆเราก็ยอมกันไป ไม่ใช่เจอทีนใครเฉี่ยวก็ยกพวกไปหาเรื่อง  แบบนั้นคอนเสิร์ตจะกลายเป็น สังเวียนมวยเอา
 
       นึกขึ้นได้อีกเรื่องของโทรศัพท์  คือการยกโทรศัพท์มาถ่ายรูป  มาถ่ายวิดิโอ  อันนี้สำคัญจัดๆ  เพราะผมเองเคยเป็นมาก่อนตอนเห่อการดูคอนเสิร์ตครั้งแรก อยากจะอัดนู่นอัดนี่ไว้ดู  ซึ่งหารู้ไม่ว่า   อัดไปมันก็ไม่ชัดเท่า DVD ที่เค้าจะทำขาย ถ้าอยากเก็บความทรงจำจริงๆ รอ DVDสิครับ   การอัดวิดิโอนั้น นอกจากภาพจะกาก เสียงจะห่วยแล้ว   จะทำให้เราพลาดโมเมนต์ดีๆบนเวทีด้วย  เพราะผมเชื่อว่า   การไปดูคอนเสิร์ตพวกนี้ มันต้องใช้ “ตาเนื้อ” เปล่าๆของแต่ละท่านดู  ดูในทุกๆช็อตอย่าให้พลาด ไม่ใช่นั่งมองกล้องที่อัดภาพ  มันไร้สาระและเสียดายโอกาสที่ได้ไปดูมาก  และที่สำคัญ  มันโคตรจะเกะกะคนที่อยู่ด้านหลังเลยครับ  เลิกเหอะขอร้อง  แถมบางคนยิงแฟลชที ยังกะเท็นชิงฮังใช้ท่า หมัดตะวัน  แสบตากันไปถึงโคตรเหง้าศักราชเลยทีเดียว  เลิกนะครับ นะนะ
 
       การวี้ดว้ายแบบปัญญาอ่อน  หรือที่เรียกสั้นๆว่า จังหวะนรก  นั่นเอง  คือแบบ  ไม่มีอะไรก็กรี๊ด  จังหวะเค้าเงียบ ยัยนี่ก็กรี๊ด  มันเป็นการทำลายอรรถรสการดูคอนเสิร์ตอีกแบบในลักษณะที่  มันทำให้คนรอบข้างรำคาญมาก ถึงมากที่สุด  จะกรี๊ด จะส่งเสียงอะไร  ทำได้ครับไม่ผิดหรอก ไปดูคอนเสิร์ตอย่าเงียบน่ะถูกแล้ว แต่ต้องมีกาลเทศะ ดูจังหวะ ดูความเหมาะสมด้วยครับ  และรวมถึง การพูดคุยหยอกล้อกับเพื่อนที่ไปดูด้วยกัน  ดูจังหวะด้วยครับ
 
       ทั้งนี้ทั้งนั้น  ทุกเรื่องที่กล่าวมานี้ คือตัวอย่างคร่าวๆของมารยาทในการไปดูคอนเสิร์ต  ที่ผมพอจะแนะนำและสรุปได้ว่า  สิ่งสำคัญที่สุดของพื้นฐานมารยาทพวกนี้  คือการคิดถึงใจเขาใจเราครับ  ว่าเราเองก็ไม่อยากถูกคนอื่นรบกวน ไม่ว่าจะด้วยแฟลช โทรศัพท์  บุหรี่ เสียงพูดคุย  หรืออะไรก็ตาม  ให้นึกถึงสิ่งนี้เสมอๆ และนอกนั้นก็ให้พิจารณาเอาตามลักษณะของคอนเสิร์ตว่า เป็นแบบไหน   และเราก็ควรแสดงออกให้เหมาะกับคอนเสิร์ต  กรี๊ด เฮฮา สนุกสนาน ร้องตาม และมีส่วนร่วมกับคอนเสิร์ตเป็นสิ่งที่ดีมาก  แต่ต้องพิจารณาขอบเขตและความเหมาะสมให้ดีครับ  จะยอดเยี่ยมที่สุด
 
       ไม่ว่าใคร  จ่ายตังค์ไปดูแล้ว ก็อยากที่จะได้รับความสุขกลับบ้านในระดับMaxทั้งนั้น   ไม่มีใครอยากจะถูกขัดฟีลหรอกครับ จริงไหม?
 

concert, คอนเสิร์ต