เป็นซิงเกิลประกอบภาพยนตร์อีกเพลงหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ เพราะขึ้นชื่อดารานำอย่าง ทอมครูซ และผู้กำกับอย่าง ยอเซฟ โจกินสกี้ มาทำหนังด้วยกันในเรื่อง Oblivion ที่มีฉากหลังน่าสนใจคือโลกอนาคตแล้ว  เพลงจะมาง้องแง้งกระโดกกระเดกก็คงไม่ได้  เริ่มจากส่วนหนึ่งได้วง M83 ซึ่งเป็นเทคโนซาวด์แนวหน้าของโลก  เข้ามาทำเพลงประกอบให้โลกอนาคตที่ล้ำยุค  มันน่าเชื่อถือ  มันทรงพลังมากขึ้นกับเพลง StarWaves ลองไปหาฟังกันดูได้  แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงตัวเพลงอีกเพลงนึง นั่นก็คือเพลงชื่อเดียวกับหนัง  Oblivion นั่นเอง

 

         เพลงนี้ทาง M83 ก็ได้ทำเพลงมา โดยที่มีนักร้องเสียงทรงพลังอย่าง Susanne Sundfør เข้ามาเป็นผู้ขับร้องในภาคเนื้อร้องและทำนองของเพลงนี้ด้วย  เพลงมีเสียงของซินธ์ที่ไม่หนักมากนัก  แต่ความอลังการของมันสามารถบิ๊วให้หนังและธีมทุกอย่างดูยิ่งใหญ่และทรงพลังได้  บวกกับมิติเสียงของนักร้อง คุณ Susanne Sundfør ด้วย  ทำให้ผมนึกย้อนไปถึงวงเก่าอย่าง Evanescence ได้ชั่วขณะนึง    เพลงนี้ผสมผสานกันอย่างลงตัวมาก  ด้วยความทรงพลังของเนื้อเสียงของนักร้องที่ขึ้นเฮดโทนได้สูงและกว้างกังวาน  ขณะที่ดนตรีก็หนักหน่วงและมาเต็มไม่แพ้กัน  ไม่รกแต่ทรงพลัง  ทำให้เพลงนี้  ส่งเสริมกันอย่างดีและเป็นเพลงประกอบที่ดีครับ

 

         ซึ่งตรงนี้น่าสนใจที่ โกซินสกี้ เป็นผู้เลือกวงนี้มาด้วยตัวเองให้มันตอบรับกับพลังของโลกอนาคต ซึ่ง M83 ทำได้ และยังเป็นความสดใหม่แทนที่เขาจะเลือกคนคุ้นเคยอ่าง Daft Punk มาทำให้  แต่คราวนี้มันมีอะไรบางอย่างที่ต่างออกไป และการเลือกวงนี้มา ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและสอดรับกันกับหน้าหนังอย่างรุนแรงจริงๆ

 

        ส่วนตัวหนัง เรื่องย่อของมันก็แค่โลกในอนาคตที่เสื่อมโทรมและไม่เหมาะให้คนอยู่จึงต้องไปอาศัยกันในที่สูงบนอวกาศ  แต่ตัวเอกก็ต้องมาพบกับความเป็นจริงว่ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้น  ก็ตามล่าความจริง ไล่ล่าเขา และถูกเขาไล่ล่า  ตามสไตล์ทอมครูซนั่นเอง  ต้องไปพิสูจน์ดูกันว่า จะมีความต่างอะไรกับหนังฟอร์มยักษ์เก่าของเขารึไม่  
 

         ผมพลันนึกถึง Minority Report ขึ้นมา  แต่กราฟฟิคโหดกว่านั้นมาก   ต้องดูครับ