Album Review

อัลบัม Looking Forward ของ Pause

หัตถาครองพิภพ September 03, 2012

       พอส เป็นอีกหนึ่งวงในตำนานที่ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคนจนถึงปัจจุบันนี้ ด้วยบทเพลงที่ยังคงติดในความทรงจำของพวกเราและน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของพี่โจ้ ที่ถึงแม้ในวันนี้ตัวของพี่โจ้จะไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว แต่สิ่งที่เป็นอมตะและยังอยู่ในลิสต์ตลอดกาลของใครอีกหลายๆคน นั่นคือเพลง และน้ำเสียง สำเนียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ “Pause” นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น ที่ว่าง ข้อความ สัมพันธ์ มีเพียงเรา รักเธอทั้งหมดของหัวใจ เป็นต้น เพลงเหล่านี้ขึ้นหิ้งเป็นเพลงอมตะของคนไทยและมักจะถูกนำมาcover ร้องเล่นใหม่ หรือหยิบมาฟังได้อีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่มีเบื่อ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปี เรื่องราวของวงพอส ก็จะถูกจดจำในฐานะตำนานบทหนึ่งของวงการเพลงไทย  จากวันนั้นมาจนวันนี้  สมาชิกวงพอสที่เหลือสามคนคือ นอ เอ บอส ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งและมีคอนเสิร์ต Pause Push(me) Again Concert by Majang ไปเมื่อเร็วๆนี้ และที่สำคัญ พวกเขาได้กลับมารวมตัวกันทำเพลงอีกครั้งในชื่ออัลบั้ม Looking Forward ที่มี 3 ซิงเกิลเพลงให้แฟนเพลงที่ยังคิดถึงวงพอส ได้ฟังกันอีกครั้ง
 
       
       ด้วยกลิ่นอายดนตรีที่ยังใช้โครงดนตรีที่ฟังง่ายๆด้วยเครื่องดนตรีหลักๆไม่กี่ชิ้น โปร่งๆไม่รกหูมาก  สีสันอาจจะไม่มากมายหรือฉูดฉาดตามสมัยนิยมที่เน้นความแรง ความน่าสนใจออกมาแข่งขันกันในตลาด  แต่ซิงเกิลของพอสมีพลังมีความคลาสสิคอยู่ในตัว เหมือนผมได้ย้อนกลับไปฟังพอสในยุคแรกๆอีกครั้ง  ได้ฟีลท้องฟ้าสีเทาหม่นๆ เหมาะสำหรับการฟังเพื่อรักษาจิตวิญญาณและเยียวยาความคิดถึงของพวกเราที่มีต่อวงพอสได้เป็นอย่างดี  เนื่องด้วยการกลับมาครั้งนี้เป็นการกลับมาเพื่อแฟนเพลง และคนที่คิดถึงพอสจริงๆ ดังนั้นวงจึงไม่จำเป็นต้องทำออกมาสู้กับใคร แต่ใช้ตัวตนของตัวเองในการสร้างเพลงให้ออกมาเป็นพอสให้มากที่สุด
 
 
      ซิงเกิลสามเพลงที่ว่านี้ ประกอบด้วยเพลง ตลอดมา ตลอดไป , นาฬิกา และ ไม่ชัดเจน  เพลงที่มีจังหวะมากที่สุดในสามเพลงก็คือเพลง ตลอดมา ตลอดไป เป็นป็อปร็อคที่ฟังแล้วสามารถขยับเท้าฟังได้เรื่อยๆ เหมาะสำหรับการเปิดในรถและให้กำลังใจแก่ผู้ที่ได้ฟังมากๆ  ซึ่งจุดนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์หรือจุดเด่นของ พอส มาโดยตลอดในด้านของเนื้อเพลง เพราะเนื้อเพลงพูดถึงเรื่องราวทั่วไป สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นและดับไปเป็นพลวัตในชีวิตของคนทุกคนบนโลกนี้  หากได้ฟังเพลงนี้แล้ว น่าจะทำให้ชีวิตได้เติมไฟเติมพลังพอสมควร ซึ่งทั้งสามเพลงนี้ล้วนแล้วแต่พูดถึงการเดินทางและเส้นทางของชีวิตในแง่มุมด้านต่างๆ   เพลง ไม่ชัดเจน เป็นเพลงที่มีความโดดเด่นในเรื่องธีมหม่นหมองมัวๆมากๆ  เป็นภาพเก่าที่เลือนรางที่เหมาะสำหรับช่วงเวลาที่คิดถึงใครสักคน  แต่ซิงเกิลที่ผมสนใจมากที่สุด และน่าจะบ่งบอกถึงความเป็นไป และตัวตนของพอสในปัจจุบันที่สุดคือเพลง นาฬิกา ที่พูดถึงการ ”ก้าวเดิน” ต่อไปของชีวิตของคนๆหนึ่ง ซึ่งหากดูความหมายลึกๆแล้ว ตัวผมเองฟังแล้ว นึกถึงพี่โจ้เลย การกลับมาให้แฟนเพลงได้หายคิดถึงบ้าง ตรงกับเนื้อเพลงท่อน “นาฬิกาตายเดินอีกครั้งหนึ่ง” อย่ามัวแต่เสียใจ เดินฝ่าความมืดออกจากคืนหม่นหมอง.. มันคือการกลับมาของพอสในครั้งนี้จริงๆ  ซึ่งเนื้อหาก็สามารถใช้ได้กับเรื่องทั่วๆไป เป็นกำลังใจให้กับคนที่ล้มอยู่ ได้ลุกและก้าวเดินออกมาจากเงามืดที่เราต้องเผชิญอยู่ในชีวิต คนเราทุกคนต้องมีช่วงชีวิตที่หยุดนิ่งเหมือนนาฬิกาตายเหมือนกัน อยู่ที่ว่า นาฬิกานั้นจะกลับมาเดินอีกครั้งได้ช้าหรือเร็ว หรือบางคน ก็เลือกที่จะหยุดมันไว้อยู่อย่างนั้น  นาฬิกาบนโลกนี้ก็มีวิถีทางของมัน คล้ายกับชีวิตคนทุกคนนั่นเอง
 

 



       ทั้งสามเพลงของพอสที่พวกเขาทั้งสามคนได้ช่วยกันทำเพลง ช่วยกันร้องและปล่อยซิงเกิลออกมาให้แฟนเพลงได้ฟัง ถือเป็นของขวัญอันล้ำค่าที่สามารถช่วยบรรเทาความคิดถึงที่มีต่อวงได้ค่อนข้างมาก อย่างน้อยมันก็เป็นพอส ที่ถึงแม้พี่โจ้จะไม่ได้อยู่เป็นคนร้องให้พวกเราได้ฟัง แต่ด้วยสำเนียงเพลง และเนื้อเพลงที่โดดเด่นในเรื่องของการเปรียบเปรยและสื่ออารมณ์ของคนแล้ว  ก็ช่วยให้เราหายคิดถึงพอสได้ดีเลยทีเดียว 

Pause, Looking Forward