สำหรับคนที่ฟังเพลงสากลอยู่เป็นประจำคงไม่แปลกใจหากชื่อของเธอคนนี้ปรากฏขึ้นในสาระบบของลิสต์เพลงในเครื่องเล่นของคุณ หรือเสียงจากหน้าปัดวิทยุ ดีอา แฟรมพ์ตัน ก็เปรียบได้เหมือนนักร้องสาวอินดี้ของต่างประเทศที่ได้โลดแล่นสยายปีกอยู่ในอาณาจักรของคนฟังเพลงในตลาดใหญ่แล้ววันนี้  ก่อนที่จะมาถึงวันนี้เธอเองก็ฝ่าฟันอะไรมาไม่น้อยเหมือนกัน 
 

       เธอคือนักร้องและนักแต่งเพลงลูกครึ่งเกาหลีครึ่งเนเธอร์แลนด์ งานอดิเรกชอบแต่งนิยายและหนังสือสำหรับเด็ก ดูจากข้อมูลตรงนี้แล้วคงจินตนาการกันออกว่า เพลงของเธอจะมีสีสันและถูกกลั่นเค้นออกมาจากจิตวิญญาณขนาดไหน  เธอเป็นนักร้องที่มีจุดเด่นในความเป็นตัวของตัวเองมาก เพราะส่วนใหญ่เพลงก็เป็นเพลงที่เธอแต่งเองทั้งนั้น  เส้นทางเริ่มแรกของเธอได้ออกอัลบั้มอินดี้กับพี่สาวในนาม Meg & Dia มาแล้วถึง4อัลบั้ม ก่อนที่จะล้มลุกคลุกคลาน เจ๊งบ้าง ไม่ได้ออกบ้าง ฯลฯ ตามสไตล์ของศิลปินที่ต้องผ่านเส้นทางอันมีขวากหนาม จนกระทั่งจับพลัดจับผลูเข้าไปประกวดรายการ The Voice USA season 1 ในที่สุด (ของบ้านเราก็กำลังจะมีแล้วเช่นกัน) ซึ่งสุดท้ายแล้วเธอเองก็ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ1 หรือที่2ของรายการนั่นเอง  แต่เป็นที่2ที่รู้สึกว่ามันเปรี้ยงกว่าผู้ชนะยังไงไม่รู้ด้วยจุดเด่นคือความสามารถในการแต่งเพลงและการร้องในรูปแบบของตัวเองอย่างที่ใครก็ยากจะเลียนแบบได้ (ลองไปหาคลิปเพลง heartless มาฟังดูครับ)  หลังจากรายการนั้นสุดท้ายเธอก็ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวในที่สุดภายใต้ชื่อชุด Red .. โดย Dia Frampton
 

บอกตามตรงว่าผู้เขียนเองก็ไม่ได้ติดตามแม่นางท่านนี้มาก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมมั่นใจว่า คนนี้แหละตัวจริง และหูของผมไม่ได้เพี้ยนนั่นคือเพลง The Broken Ones นั่นเอง .. 10 เพลงในอัลบั้ม Red เป็นเพลงที่มีกลิ่นอายบ้านๆตามความรู้สึกของผม แต่เป็นบ้านแบบที่ถูกออกแบบด้วยสถาปนิกที่มีจินตนาการสูงส่ง และสไตล์ออกมาไม่ซ้ำใครมากๆ เพลงทุกเพลงในอัลบั้ม ฟังแล้วค่อนข้างสดใส และให้ความรู้สึกสีขาวนวลๆ สว่างๆ  ออกจะน่ารักซะด้วยซ้ำ หลังจากได้ฟังจนครบทั้งอัลบั้มแล้ว  ย้อนกลับไปที่เรื่องเพลงที่ผมพูดถึง  ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้มาก่อนว่า เพลง The Broken Ones เป็นเพลงที่ได้รับการโปรโมท และเป็นเพลงที่มีคนชอบมากพอสมควร แต่ทันทีที่ได้รีวิวอัลบั้มนี้ ผมได้ยินครั้งแรกปุ๊บ เพลงนี้ปิ๊งมากๆ ฟังแล้วคิดเลยว่า ถ้าจะเขียน คงต้องพูดและแนะนำให้ฟังเพลงนี้เป็นแน่แท้ .. The Broken Onesเป็นเพลงช้าสไตล์อินดี้ร็อค ออกแนว คันทรีนิดๆด้วย แต่อยากบอกว่า เป็นเพลงที่เท่ห์มาก “เท่ห์โคตรๆ” ทั้งจังหวะของ เมโลดี้ อารมณ์เพลง การดีไซน์เสียงร้องโดยเฉพาะท่อนเสียงหลบๆ.. ให้ตายเถอะมันกรีดใจคนฟังชะมัด ที่สำคัญคือท่อนฮุค เจ๋งมากจริงๆ  เพลงนี้สามารถไปใช้เป็นเพลงตอนจบหนังดีๆได้เรื่องหนึ่งเลยคงเข้าท่าไม่น้อย MVก็มีแล้วนะครับสวยๆอาร์ทๆเข้าป่าเข้าพง ลองไปหาดูกันได้
 

       อีกเพลงหนึ่งที่อยากแนะนำและอยากบอกว่า นี่แหละ ความน่ารักที่ผมเขียนถึงด้านบน  ซึ่งหลายๆคนรวมถึงผมเอง ก็รู้จักเธอจากเพลงๆนี้ด้วยนั่นคือเพลง Don’t kick the chair ที่เริ่มintroเพลงมาก็รู้เลยว่าเพลงนี้ ผมชอบทางคอร์ดเพลงนี้มากๆ  เมโลดี้ท่อนpre-hookเจ๋งมาก และที่สำคัญ “จุดจำ” ของเพลงที่เยี่ยมยอด ที่เอาไปใช้เปิดในผับจะยิ่งเหมาะมาก นั่นคือท่อนฮุค!!!!  ด่อนคิกเด๊อะแชร์… แอ๊แอแอะแอ แอ๊แอแอ่แอแอแอ่แอ๊แอ่..  ได้Kid Cudiมาฟีทเจอริ่งท่อนแร็พให้ด้วยเป็นความสมบูรณ์ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงเท่ห์ๆอีกเพลงนึงจริงๆ เชื่อว่า วิทยุคลื่นที่เปิดเพลงสากลของประเทศไทย คงไม่พลาดที่จะเปิดเพลงนี้ในหน้าปัดวิทยุ และเคยผ่านหูผู้ฟังมาแล้วบ้างแน่ๆ 
 

       นอกจากนี้เพลงอื่นๆก็น่าสนใจ เพลง Isabella ก็มีจังหวะฟังสนุกๆ แต่ก็ยังรักษาธีมของอัลบั้ม และเอกลักษณ์การแต่งเพลงของเธออยู่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง คือเอาง่ายๆถ้าฟังทั้งอัลบั้มแล้ว  มันเป็นเนื้อเดียวกันจริงๆ คือตัวตนของผู้หญิงคนนี้..  
 

       อีกเพลงที่น่าสนใจคือ I will ที่ Blake Shelton มาฟีทด้วย ซึ่งเขานี่แหละคือคนที่ดันเธอขึ้นมานี่เอง  การมาร่วมร้องของBlakeด้วยน้ำเสียงที่นุ่มๆแต่เข้มแข็งของผู้ชาย ทำให้เพลง I will มีความแข็งแรงและอบอุ่นมากขึ้นจริงๆ
 

       หากอยากหาอัลบั้มผู้หญิงสักชุดหนึ่งที่มีความเป็นตัวของตัวเอง สามารถฟังสบายๆ แต่ภายในเพลงก็มีกิมมิคของเมโลดี้สวยๆและมีลายเซ็นของตัวเอง คุณก็ไม่น่าพลาดที่จะทำความรู้จักกับสาวอินดี้คนนี้ Dia Frampton ..  หากจะทดลองทำความรู้จักกับเธอ สองเพลงข้างต้นคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่คุณควรได้ลองฟัง ทั้ง Don’t kick the chair เพลงสนุกๆที่ฟังแล้วทุกคนต้องจำได้ตั้งแต่ครั้งแรก  กับเพลงเด็ดเท่ห์ๆ อย่าง The Broken Ones ..  ไม่มีคำว่าผิดหวังสำหรับการลองฟังงานชุดนี้ที่ดนตรีก็โปร่งๆไม่อัดมาเยอะแยะมากมาย แต่มีความลงตัวอยู่ในนั้นอย่างดีทีเดียว  น่าลองฟังครับ 

 

ปล. เกือบลืมแนะนำ เพลง Good Boy ก็เจ๋งนะครับ น่ารักม๊ากกกกกก  
 

ปล.2 ถ้าคนฟังเพลงไทยที่ชอบสไตล์คล้ายๆปาล์มมี่ คุณน่าจะลองฟังงานของ Dia ดูนะครับ น่าจะชอบเพราะสไตล์คล้ายๆกันจริงๆ ^^