Album Review

Lomosonic - Echo & Silence : งานร็อคคุณภาพเยี่ยมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยออร่าแห่งพลังงาน

หัตถาครองพิภพ September 11, 2013

         วงร็อคหัวก้าวหน้า นี่คือคำโปรยที่เป็นเหมือนสมญานามเวลาที่อ่านข้อมูลหรือรายละเอียดของวงนี้ ตั้งแต่งานชุดแรก ซิงเกิลแรกๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันก้าวหน้ายังไง  สิ่งหนึ่งที่ผมพอจะพูดได้นั่นก็คือ Lomosonic ไม่ใช่วงร็อคที่ทำงานแบบย่ำติดอยู่กับกระแสนิยมของยุคสมัย โดยเฉพาะในบ้านเรา  พวกเขาไม่ทำในสิ่งที่ทำออกมาแล้วจะต้องขายได้ระดับถล่มทลายเทปหายหมดแผง  เพราะนั่นคือสิ่งที่คนอื่นที่ตกอยู่ในห้วงแห่งทุนนิยมที่ครอบงำวงการเพลงบ้านเราอยู่ในขณะนี้ ที่ไม่ว่าอะไร ก็ต้องเป็นเงินเป็นทองไปหมด  แต่ว่าพวกเขาทั้งสี่ในนามโลโม่โซนิค (แต่ผมชอบเรียกโลโมโซนิคมากกว่า)  พวกเขาทำในสิ่งที่มันไม่ยึดติดว่า จะต้องเป็นเพลงตลาดฟังง่ายๆ  ทำเพลงรักสื่อสารง่าย เน้นขาย เน้นการโดนใจที่จะส่งต่อๆกันไปในโลก social network ด้วยสิ่งที่เรียกว่า “กระแส”   เพราะจากการที่ผมได้นั่งศึกษานั่งฟังงานของพวกเขาโดยเฉพาะชุดนี้แล้วนั้น  สิ่งที่พวกเขาทำมันมีมิติที่ลึกลึงไปกว่าการต้องการเป็นกระแสความดังในลักษณะวัฒนธรรมชุบแป้งทอดแบบ ส่งต่อ แชร์ อัพ โพสต์ อย่างเดียว  แต่สิ่งที่พวกเขาทำก็คือ การทำเพลงที่มีคุณภาพออกมาในแบบที่ไม่ย่ำอยู่ในปลักโคลนเก่าๆของความเป็นร็อค แต่นี่คือ Forward Thinking Rock Band อีกวงที่สามารถเรียกแบบนี้ได้จริงๆเพราะการถ่ายทอดของพวกเขา สามารถทำให้เรื่องราวธรรมดาๆอย่าง “ความรัก”  มีรูปแบบลักษณะ และสีที่แตกต่างหรือบิดเพี้ยนไปจากแนวทางปกติ แต่ภาพรวมสามารถสื่อสารได้อย่างลึกซึ้งและมีอะไรบางอย่างที่ผมเรียกว่ากิมมิค อยู่ในเพลงค่อนข้างเยอะจริงๆ
         พวกเขาทั้ง 4 ก่อตั้งวงมาโดยมีเบสอยู่ที่มหาวิทยาลัยที่ผู้เขียนศึกษาอยู่ ณ ปัจจุบันซึ่งก็คือ  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีนั่นเอง แอบดีใจเล็กๆ จากชื่อวงแรกเริ่มที่มีความหมายเกี่ยวกับการบิดเพี้ยนสีของภาพถ่ายอย่าง Lomo แต่ด้วยปัญหาลิขสิทธิ์ก็จึงกลายมาเป็น Lomosonic ในที่สุด ปัจจุบันเหลือแค่ 4 คนคือ  พีระสิฐ พลตาล (บอย) - ร้องนำ , ฉัตรชัย งามสิริมงคลชัย (ป้อม) – กีตาร์และเสียงประสาน , ปิติ เอสตราลาโด สหพงศ์ เดน โดมินิค (ปิติ) – กีตาร์ และ ชาญเดช จันทร์จำเริญ (ออตโต้) – กลอง นั่นเอง  งานของ Lomosonic นี่ผมเคยรีวิวไปรอบนึงแล้วกับซิงเกิลอยากจะรักแค่ไหน เดี๋ยวเรามาว่ากันอีกที แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น  งานอัลบั้มนี้ที่เรากำลังจะพูดถึงนั้นก็คือ Echo & Silence นั้น  มีความพิเศษในระดับพรีเมี่ยมสำหรับนักฟังเพลง ในแบบที่ว่า ผมก็เคยเจอมาเยอะแล้วนะ ประเภทอัลบั้มที่ใส่เพลงมาเยอะๆอย่างจุใจเพื่อตอบแทนผู้ฟังที่อุดหนุนหรือซื้องานไป  แต่อัลบั้มที่บรรจุเพลงมา 20 เพลง สำหรับบ้านเราแล้วนี่ ไม่ใช่เรื่องปกติขั้นรุนแรงเลยเพราะอย่างมาก 12 ต่อชุดนี่ผมก็ว่ามันเยอะมากแล้วในสมัยนี้  บอกตามตรงว่าผมเป็นคนที่ชอบวัฒนธรรม concept album พวกEPมันฟังแล้วไม่สะใจ ไม่จุใจและต่อเนื่อง แต่ก็ไม่คิดว่า จะมีใครทำออกมาในปริมาณที่มากขนาดนี้  และที่มันดีในระดับยิ่งยวดก็คือ ไอ้ 20 เพลงนั้นของ Lomosonic ในชุดนี้ มันก็เป็นเพลงที่มีคุณภาพที่ตั้งใจทำออกมาด้วย ไม่ได้มีเพลงไหนที่ลวกๆออกมาเลย  คือทำเน้นปริมาณออกมาก็เท่านั้นเพราะไม่มีถ้วยรางวัลสาขาจำนวนเพลง/albumให้ซะหน่อย แต่วงนี้ตั้งใจทำจริงๆทุกเพลงยืนยันได้ ยอดเยี่ยมมากๆ ด้วยแพคเกจ 2 ซีดี 20 เพลง  ตอนแรกที่เห็นผมก็ตกใจเลยว่าเฮ้ย นี่มันอัลบั้ม Compilation รวมฮิตรึเปล่าวะเนี่ย  แต่ไปๆมาๆมันก็ไม่ใช่ซะแล้ว  ได้นั่งฟังเพลงกันแบบจุใจหละทีนี้ 
        ไปดูที่งานเพลงบ้าง กับแนวดนตรีที่ยังคงเป็น Alternative Rock ในแบบทันสมัย ภายใต้สังกัด smallroom ผมบอกได้เลยว่า 20 เพลงที่ได้บอกไปแล้วนั้นมีของดี หรือที่เรียกว่ากิมมิคอยู่ทุกเพลง  ไอ้กิมมิคที่ว่าคือ มันมี”อะไรๆ” อยู่ในเพลงนั้นๆไงครับ ไม่ใช่เพลงที่กลวงโบ๋ไร้มิติ แต่ละเพลงจะมีความน่าสนใจ มีกลุ่มก้อนความคิดที่ขมวดอยู่ในทุกๆเพลง ผมจะเลือกยกตัวอย่างเพลงที่น่าสนใจมากๆมาแนะนำกัน ซึ่งก็เชื่อว่าหลายๆท่านอาจจะพอผ่านหูไปบ้างแล้วในหลายๆเพลง อย่างเพลงเปิดหัวอัลบั้มอย่าง  ถึงเวลา (wake) เพลงนี้ฟังแล้วติดหูจริงๆ ด้วย Lyrics กับ Melody ของเพลงมันโดดเด่นเอามากๆ  สารภาพด้วยความจริงว่า ผมได้ฟังเพลง ถึงเวลา นี้ ครั้งแรกไม่ใช่งาน original ซะด้วยซ้ำ เป็นงาน cover ใหม่ที่มาจากอัลบั้มรวมฮิตของsmallroomที่เป็นแนวอะคูสติครีคัฟเวอร์ นั่นก็คือจากอัลบั้ม A Room On The Hill นั่นเอง  ฟังจากในนั้นนี่ คนละอารมณ์เลยนะครับ มันละเมียด มันละเอียดอ่อนและซอฟท์มากทั้งในแง่ดนตรีและความรู้สึกหรือฟีลลิ่งของการร้องถ่ายทอดออกมา มันได้อีกอารมณ์ แต่พอมาฟัง origin แล้ว  ก็ยังคงยอดเยี่ยมอยู่ดีและได้อีกอารมณ์ของความเป็นร็อคที่หนักแน่นเข้มแข็งขึ้น  เพราะอย่างที่บอก โครงเพลงมันดีจริงๆไม่ว่าจะเปลี่ยนดนตรียังไงเพลงก็ยังเยี่ยมเหมือนเดิม
 

         อึด (tolerate) เพลงมันส์ๆที่มีจังหวะและกรูฟของเพลงแบบเข้มข้นสะใจ  ริฟกีต้าร์ ลีด ริธึ่ม แบบจัดเต็มมาทุกไลน์เรียกได้ว่าเป็นร็อคแบบจัดๆเลย  ฟังเพลงนี้แล้วก็พลันนึกไปถึงพวกรุ่นเก่าๆอย่าง Sleeping Sheep เลย อารมณ์เข้มแข็งดุเดือดในไลน์ดนตรีที่ใกล้เคียงกันแบบนี้แม้จะไม่ดุดันเท่าแต่ก็เข้มไม่ใช่เล่นๆเช่นกัน เพลงนี้มันส์จริงๆ ดนตรีจัดเต็ม แถมมีสำรอกนิดๆด้วย  แต่กีต้าร์มันส์มากจริงๆฮะ ต้องลองฟังดูอย่างที่บอก แพรวพราวมากที่สุดเพลงนึงในชุดนี้ละ
 

        อยากจะรักแค่ไหน(Away Message)  เพลงนี้คงไม่ต้องสาธยายถึงความยอดเยี่ยมอะไรมากมายเพราะบอกได้คำเดียวว่า ”เพราะ” โคตรๆ ถ้าจะฟังอัลบั้มนี้ มีสองเพลงที่ถ้าไม่ได้ฟังก็เหมือนมาไม่ถึง Echo&Silence จริงๆก็คือ ถึงเวลา กับ อยากจะรักแค่ไหน นี่แหละครับ  เพลงนี้เนื้อหาเป็นความรักในแบบที่หายากมาก คือฟังแล้วมันรู้สึกโรแมนติคนะ ด้วยไลน์ดนตรีที่อ่อนนุ่มสวยงาม เมโลดี้สวยๆเพราะๆ แต่เนื้อหานี่แหละที่แปลกออกไปจากสิ่งเดิมๆของเพลงรัก และคงต้องให้ผู้ฟังลองตีความและคิดตามดูว่า เออ มุมมองแบบนี้มันหาไม่ได้ในเพลงทั่วๆไปนะ  ประมาณว่า เนี่ย ฉันรักเธอมากนะ ยังรักอยู่ด้วย  ก็อยู่ที่เธอแล้วล่ะจะรักไหมหรือรักกันแค่ไหน ถ้าไม่ฉันก็คงอาจจะไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้วก็ได้นะ .. เป็นมุมมองแบบเสนอ full option ให้อีกฝ่าย จะยังไงก็ได้กูยอมแล้ว ประมาณนี้  ผมว่าแปลกดี และเป็น Romance Horror ดีด้วย ชอบครับ
 

         เหยียบ (Fearless) เพลงนี้เสียงกีต้าร์มัน “บาด” (เหมือนชื่อเพลงเก่าของวง)  ลูกกลองหนักหน่วงกระเดื่องดับ ตุ้บๆ เลย เพลงนี้เป็นสปีดร็อคในแบบรวดเร็วหน่อย ออกอีโมเล็กๆ  แต่ฟังแล้วมันส์ ขาขยับตามคันเร่งของเพลงที่ฟังแล้วกระชากคนฟังให้พุ่งไปข้างหน้าได้จริงๆ  ช่วงsoloมีริฟสากๆให้ได้ฟังกันพอหอมปากหอมคอ  แต่วงนี้นั่งฟังดนตรีมันส์มากจริงๆ ที่สำคัญชอบในส่วนของเนื้อร้องที่ตาบอยแต่งมาครับ โดยเฉพาะฮุค  เออมันไม่ธรรมดา ไม่เกร่อแบบฮุคง่ายๆแบบที่พวกนักแต่งเพลงขี้เกียจๆชอบแต่งกัน มันเหมือนสมัยผมแต่งเพลงยุคแรกๆปีแรกๆที่คิดได้แต่คำธรรมดาวกไปวนมานั่นแหละ แต่งานของ Lomosonicนี่ เนื้อฮุคเด็ดทุกเพลงและแปลกตาทุกเพลงไม่วกวนเก่าๆเช่นกัน
 

          ถ้าไม่อยากเสียใจ (wish)  เพลงนี้เป็นเพลงช้าที่เพราะเอามากๆ  ชอบท่อนที่ขึ้นเฮดโทนเสียงหลบมากๆ ทำให้เมโลดี้มันมีเรนจ์กว้างขึ้นทำให้ฟังแล้วรู้สึกอ่อนหวาน  บวกกับเนื้อหาที่สวยงาม โปรดจับมือฉัน  ฟังแล้วมันอบอุ่นและฟีลกู้ดมากๆแม้เนื้อหามันจะผิดหวังไม่สมหวังอะไรก็ตามแต่   ฟังแล้วรู้สึกดี  นุ่มมากเหมือนกำลังกินซอฟท์ครีมที่วางอยู่บนกีต้าร์ฟลายอิ้งวีเลยทีเดียว!
 

         แรง (suffering) เพลงนี้นี่ต้องเรียกว่าไฮไลท์ส่วนตัวของผู้เขียนเพราะฟังแล้วมันกระแทก มันimpactมากโดยเฉพาะท่อนฮุค  คือฟังแล้วจำได้เลย  ด้วยความที่มันมีกิมมิคส่วนตัวในแต่ละเพลงอย่างที่ผมบอกไปแล้ว  เพลงนี้เป็นเพลงร็อคช้าๆที่เน้นเรื่องของ”ฟีลลิ่ง”แบบชัดเจนยิ่งกว่าเพลงไหนๆในอัลบั้มนี้   และด้วยฮุคที่จำนวนโน้ตน้อยๆแต่หนักหน่วงและถูกฝังอยู่ในหัวคนฟังทันทีที่ได้ฟังไม่เกินสองรอบ  กับท่อน เข้ามา!!! เข้ามารุนแรงกับช้านนนนนน!!!5555 ออกแนวมาโซคิสม์มากๆ (นี่มันอะไรกัน- -“)นอกจากนี้  เมโลดี้ที่เป็นverseปกติแบบท่อนa1 a2 ก็ยังเป็นชุดเมโลดี้ที่อ่อนหวานและไพเราะเอามากๆด้วย  เพลงนี้นี่ขอติดดาวให้เป็นอีกเพลงที่ต้องฟังจาก Echo&Silenceด้วยความชอบส่วนตัวของผู้เขียนเลยองค์ประกอบก็ดี  และแน่นอน ภาคดนตรีในส่วนsoloของเพลงก็ยังทำได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย มีลูกลีดโฉดๆโผล่มาให้เห็นแบบหางๆนิดนึงเพื่อดีดอารมณ์เพลงขึ้นไปก่อนเข้าฮุคสุดท้าย .. ยอดเยี่ยมมากครับเพลงนี้
 

         สาย (decay) เป็นชิ้นงานแปลกประหลาดที่หลุดเข้ามาอยู่ในอัลบั้มชุดนี้ได้แบบแนบเนียนชนิดถ้าไม่สังเกตอาจจะไม่ทันรู้ตัวว่า นี่ตูฟัง Electronics Rock เข้าไปตอนไหนในงานชุดนี้เนี่ย  ใช่แล้วครับ กับงานเพลงที่มีซาวด์ล้ำจากการผสมผสานของSynthesizerเข้ามาทำให้เพลงร็อคกลายเป็นงานที่มีเสียงเครื่องจักรเป็นแกนหลักและมีแพทเทิร์นร็อคเป็นตัวซัพพอร์ตเพลง ซึ่งเนื้อหาที่หนักหน่วงในแบบนามธรรมที่ต้องคิดและตีความนิดนึง ก็เข้ากับซาวด์เพลงอวกาศแบบนี้ดีทีเดียว พูดแล้วก็คิดถึง Pink Floyd เลยเพลงนี้
 

          เก็บไว้ (Echo) เพลงที่มีชื่อเดียวกับอัลบั้ม เพลงนี้ถูกเก็บไว้เป็นท่าไม้ตายของเบจิต้าที่เอาไว้ใช้ระเบิดพลังในตอนเปิดอัลบั้ม Echo & Silence นั่นเองที่ทางวงLomosonicได้เอามาเล่นในงาน มีการปล่อยก่อนวันงาน3วันแต่ยอดวิวเป็นแสน และแฟนเพลงก็ร้องกันกระหึ่มเลยทีเดียว เรียกได้ว่างานของโลโม่นี้นั้นค่อนข้างที่จะใช้กลไกของตัวเพลง ทำงานด้วยตัวมันเอง กล่าวคือ  ทำเพลงออกมาให้มันเพราะและยอดเยี่ยมได้มาตรฐาน เดี๋ยวกลไกการส่งต่อทางสังคมมันก็จะดำเนินไปเอง และทำให้เพลงติดหูและมีคนรู้จักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง  เพลงนี้ก็เพราะมากเช่นกันแม้ซาวด์จะไม่ได้หนักมากแต่สามารถฟังได้เรื่อยๆชิลๆ
 

         ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่ต้องเข้าใจ (word) กับความโปร่งของริธึ่มกีต้าร์โปร่งที่ใส่มาในเพลงทำให้เพลงมันซอฟท์และหักอารมณ์ร็อคพอสมควร แต่ทำได้ลงตัวทีเดียว  และแน่นอนว่า เพลงนี้เพราะมากๆ ฟังแล้วล่องลอย ในขณะที่เนื้อหากลับ”คม”อย่างไม่น่าเชื่อทั้งๆที่มันน่าจะงง แต่พอไม่งงเท่านั้นแหละ ก็ไม่งงเลย .. ตั้งใจฟังแล้วคิดตามครับเพลงนี้  จะไม่ยากมาก  แต่ฟังอารมณ์โดยรวมมันยอดเยี่ยมมาก และที่สำคัญ ฮุคมันโดนมวกส์!  เพลงนี้แปลกประหลาดตรงที่มันเป็นเหมือนอินเวิร์สของอะไรบางอย่าง ที่ท่อนเวิร์สธรรมดาจะเป็นเนื้อหายากๆ แต่ท่อนฮุคเพลงนี้ใช้คำที่โดนๆสื่อสารไปตรงๆในจุดหัวฮุคเลยทีเดียว เพลงนี้น่าจะโดนใจคนฟังอย่างดีทีเดียว เครื่องสายที่ใส่มาเป็นแบ็คกราวน์เล็กๆ(ไม่รู้ฟังผิดรึเปล่า)ทำให้เพลงมันละมุนละไมมากๆนอกจากความเป็นอะคูสติคแล้ว
 

        หลงทาง (home) เพลงนี้ต้องใช้คำจำกัดความว่า”สวยงาม” กับการสื่อสารเรื่องราวของคนที่ไม่มีหนทางจะไป แต่กลับเจอหนทางสว่างในที่ที่ง่ายดายที่สุดเท่าที่มนุษย์ทุกผู้จะหาได้ มันง่ายจริงๆกับสิ่งที่อยู่รอบๆตัวคุณ นั่นก็คือ บ้าน นั่นเอง .. แต่จะกลับหรือไม่กลับนี่ก็อีกเรื่อง เออ .. คดีพลิก นี่ผมกำลังอ่าน JOJO อยู่รึเปล่าเนี่ย!  ปล เมโลดี้เหงามาก/ ขอ (warm eyes) เพลงนี้เหมือนเป็นโบนัสปล่อยของที่ทิ้งทวนด้วยอารมณ์เพลงและดนตรีแบบที่ฟังสบายๆ แต่มีมิติที่ลึกซึ้ง  และมันซอฟท์จริงๆเหมือนลอยอยู่กลางปุยนุ่น คือมันเพราะน่ะครับ และเพลงก็ฟังง่ายๆ  ทุกอย่างสอดประสานกันอย่างลงตัวเหมาะเจาะดี เพลงนี้ผมก็ชอบ เหมือนได้ดูบทกวีดีๆบทนึง
 

          สุดท้ายเพลงที่จะแนะนำอีกเพลง ก็น่าจะเป็น ความรู้สึกของวันนี้ (felt) ที่จะไม่เขียนถึงก็คงจะกระไรอยู่ถ้ารีวิว Echo & Silence เพราะเพลงนี้เด่นมากๆอีกเพลง ด้วยความงดงามของเพลง และแน่นอนว่าเนื้อหาเพลงนี้ กินขาดในด้านความสวยงามของความรัก กับท่อนฮุคจักรพรรดิ์ระดับฆ่าคนฟังตายได้ เพราะkillกันตั้งแต่หัวเลยด้วยคำที่กล่าวว่า “ฉันคิดถึงเธออยู่ ทุกช่วงเวลาที่ยังหายใจ”  ในขณะเดียวกันเวิร์สธรรมดากับมีความซับซ้อน มีcomplexที่แปลกประหลาดอยู่ในตัวเหมือนงานอาร์ทไม่เน้นขาย แต่ท่อนฮุคกลับกลายเป็นภาพวาดระดับโลกราคาหลายล้านอะไรประมาณนั้น คือท่อนธรรมดากับฮุคมันช่างcontrastกันดีเหมือนงานศิลป์ดีๆชิ้นนึงเลย  มีลีดเพราะๆให้ฟังช่วงกลางเพลงด้วย.. เพลงนี้เพราะจ้า ห้ามพลาด!!!!!!!
 

 
           หลังจากที่นั่งละเลียดหลายรอบแล้วร่ำลาร่วงโรยไปด้วยหยาดโปรยของเอ็นโดรฟินที่พริ้วไปทั่วร่างกายแล้ว(เว่อร์มาก)  สรุปแล้วมันก็เป็นแบบที่ผมเกริ่นไปแล้วต้นบทความแหละครับว่า งานเพลงระดับ 20 เพลงนี่มันแบ่งได้สองชุดสบายๆเลย แต่ Lomo กลับสาดส่งมาให้คนฟังแบบเต็มmaxแบบนี้ ที่สำคัญ เพลงมันดีๆทั้งนั้นเลย เพลงที่ผมรีวิวไว้แล้วนั้น เจ๋งชัวร์ๆไปฟังได้ นอกจากนั้นพวกคุณก็ไปลองหาซื้อมาฟังกันเองนะจ๊ะ นอกจากนี้ยังมีแทร็คที่เป็นเพลงบรรเลงด้วยอยู่ประมาณสามเพลงได้ ลองฟังดู  กับเพลงที่ดนตรีดีๆเป็นร็อคเข้มข้น  เนื้อหาเพลงมีการถ่ายทอดแบบมีชั้นเชิง และทุกๆอย่าง ลงตัวเป็นอัลบั้มที่เพลงเพราะจริงๆ ไม่น่าเสียดายเงินเลยแม้แต่วินาทีเดียว  ไปอุดหนุนโลโม่เถอะครับ ชุดนี้เจ๋งจริงๆ
 

            ฟังชุดนี้แล้วเวลาหมดไปแบบไม่รู้สึกตัวเลยจริงๆ
 

Lomosonic , Echo & Silence