
Album Review
Soul After Six - กลัว : วงโซลในตำนานกับงานเพลงดีๆที่หัวใจของเราไม่เคยกลัวที่จะรอคอย
หัตถาครองพิภพ September 18, 2013
พี่ๆวง “โซลหลังเคารพธงชาติ” หรือ Soul After Six คือวงที่ขึ้นเป็น “ตำนาน” ทั้งของชาติ และเป็น ”ตำนานในหัวใจ” ของคนชอบฟังเพลงทั่วทั้งพื้นพิภพนี้ไปแล้ว วันนี้พวกพี่ๆเค้าก็กลับมาพร้อมงานใหม่อีกครั้ง ทันทีที่ผมเห็นข่าวว่าซิงเกิลนี้ ปล่อยออกมาโดยวงดนตรีวงนี้ ความรู้สึกมันพิเศษแบบบอกไม่ถูก มันมีอะไรลึกลงไปในจิตใจว่า เฮ้ย วงที่เราเคยหลงรัก วงที่เรานั่งฟังเพลงเค้ามาตั้งแต่สมัยเรียน วงเหล่านี้กลับมาอีกแล้ว กล่าวคือพวกคนรุ่นๆผม พวก Gen Y นี่แหละตัวดีเลย เป็นพวก nostalgia ที่ชอบพร่ำเพ้อมีความสุขกับความหลังเก่าๆ(ทั้งๆที่ยังไม่แก่กันซักหน่อย) พวกวงรุ่นก่อนหน้านี้ ทุกวง ทุกศิลปิน ในสมัยก่อนๆ ล้วนแล้วแต่เป็นศิลปินที่ยอดเยี่ยมกับเพลงที่ติดค้างในความรู้สึกของคนฟังชาวไทยแทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นดนตรีแนวไหน อย่างป็อปเราก็มีพี่เบิร์ด ร็อคเราก็มีไมโคร หินเหล็กไฟ หรือแม้แต่ Silly Fools, เพลง Dance เรายังมีแม้แต่บาซู หรือแร็พเตอร์ และแน่นอน ถ้าพูดถึงโซล ชื่อนึงที่ขึ้นมาแน่ๆ ก็คือ Soul After Six นี่แหละ .. พวกเขาเหล่านี้กลับมาครั้งไหน หรือออกเพลงอะไร ก็ทำให้พวกเรามีความสุข และส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยผิดหวังกับเพลงเลยเพราะพวกเขาทำมาตรฐานไว้ดี และก็ไม่ปล่อยให้มันตกจนเสียชื่อเสียงเก่าๆแต่อย่างใด นี่แหละครับความสุขของพวกผม และโซลฯก็เป็นความสุขของคนวัยพวกเราอีกวงนึงจริงๆ .. อาห์ ฟิน .. ห๊ะ นี่ผมยังไม่ได้รีวิวเพลงอีกเรอะ!!!
โซลอาฟเตอร์ซิกส์เป็นวงที่มีที่มาตรงตัวตามชื่อเลย เห็นภาพมากๆเมื่อสามหนุ่มรวมตัวนัดกันเล่นและซ้อมดนตรีแนวที่พวกเขาโปรดปราน นั่นก็คือเพลงโซลนั่นเอง กับเมโลดี้ลื่นไหลสวยงามแต่สมาร์ทแบบคลาสสิค เบสตึ้บๆที่เดินเป็นโน้ตยังกะใช้ปากร้อง และเอกลักษณ์เครื่องดนตรีที่เป็นตัวชี้วัดความเป็นโซลนอกจากกีต้าร์เบสกลองแล้ว พวกเครื่องเป่าและไลน์เปียโนคีย์บอร์ด ก็ยังเป็นสิ่งที่เป็นจุดแข็งของโซลอาฟเตอร์ซิกส์จริงๆ พวกเขาทั้งสามประกอบด้วย ณรงค์ฤทธิ์ สุพรรณเภสัช (ปึ่ง) - เปียโน, เปียโนโรดส์, ร้องนำ, คอรัส..พี่ปึ่งของเราที่เป็นเมนของวงนั่นเอง / วิศรุตเทพ สุพรรณเภสัช (ปิงปอง) - ร้องประสาน, เปียโนโรดส์, กลอง, เปียโน และ ศรุต วิจิตรานนท์ (บิ๊ก) – เบส พี่บิ๊กสุดหล่อของพวกเรา (สารภาพตอนแรกว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเฮียเป็นนักดนตรี Soul After Six สมัยก่อนผมไม่มานั่งสืบข้อมูลอะไรแบบนี้หรอก ฟังเพลงอย่างเดียว เห็นครั้งแรกพี่บิ๊กก็เป็นนักแสดงในละครแล้ว -*- มารู้ทีหลังอึ้งมาก).. พวกพี่ๆทั้งสามนี้ถือเป็นนักดนตรีที่ฝีมือดีมากๆกลุ่มนึง วัดระดับได้ง่ายๆเลยจากงานอัลบั้มแรกในปี39 ของพวกเขา ตอนนั้นผมยังดีดลูกแก้วหลุมวัวหลุมเสืออยู่เลย - -“ กับอัลบั้ม Soul After Six ภายใต้สังกัดค่ายทำขนมเบเกอรี่มิวสิคนั่นเอง และนี่ก็น่าจะเป็นชุดที่เป็นตำนานของพวกเขาไปอีกนานเลยเพราะมาตรฐานสูงมาก ไม่ใช่ว่าพวกเขาเล่นโชว์สะบัดกันอย่างเดียว แต่ตัวเพลงมันสุดยอดในแง่ของความไพเราะ ความลงตัวของเพลง และสไตล์คลาสสิคๆแบบ “โซล” ที่บ้านเราสมัยนั้นก็หาได้ยากที่จะทำเพลงออกมาได้ยอดเยี่ยมแบบนี้ กับเอกลักษณ์ดนตรีสวยๆ กับเสียงร้องอบอุ่นแบบที่ฟังแล้ว เฮ้ย S6 (Soul After Six) แน่ๆ และแน่นอนว่า ผมคงพลาดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยถึงงานในตำนานอย่าง “รักเก่าเก่า” เพลงที่ทำให้คนไทยน้ำตาไหลมาเกินล้านลิตรแล้ว / รู้ เพลงมีจังหวะที่ผมหลงรักปักเข้าไปในสมองแบบถอนไม่ออก และสุดยอดเพลงในตำนานแบบไม่ต้องโม้ให้เยอะอย่าง “ก้อนหินละเมอ” นั่นเอง .. ผมคงไม่ต้องพล่ามมากคงรู้กันดีถึงความเยี่ยมยอดนี้ครับ
ทีนี้ พวกเขาออกงานใหม่มาแล้วในซิงเกิลเพลงที่ชื่อว่า กลัว (รีบตัดเข้ารีวิวซิงเกิลก่อน ชื่นชมพวกพี่เค้าเยอะจะกลายเป็นว่ารีวิวบั้มเก่าเอา ฮ่าๆๆ) เพลงกลัวเป็นอีกซิงเกิลใหม่ของปี2556 ที่เซอร์ไพรส์มากว่า เฮ้ย มายังไงเนี่ย และแน่นอน ไม่ว่าศิลปินใหม่ยุคนี้จะออกเพลงอะไรมา ถ้าไม่ใช่วงที่ผมถวายหัวเชียร์จริงๆ เห็นชื่อของ S6 ผมก็ปรี่เข้าหาก่อนเลยล่ะเพราะด้วยคลาสของพวกพี่ๆทั้งสามมันไม่มีอะไรมาหักห้ามผมได้อีกต่อไปที่จะไม่ฟังงานพวกเขาก่อนใคร เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เพลงซิงเกิล”กลัว” หลังจากที่ได้ฟังแล้ว คำจำกัดความสั้นๆง่ายๆที่ผมจะมอบให้เพลงนี้ ขอสามคำแบบ VRZO ผมก็คงให้ได้ว่า “สมูธ งาม ฟิน” นั่นแหละครับ ความสมูธนั้นผมโฟกัสไปที่เรื่องของการ arrangeดนตรี และภาคทำนองหรือเมโลดี้เพลงทั้งหมดทุกองค์ประกอบ ทุกไลน์ดนตรี ทุกอย่างลื่นไหลเนียนละมุนละไมโคตรๆ ฟังแล้วผมเคลิ้มล่องลอยจนแทบจะหลับฝันอย่างมีความสุขเลย เพราะดนตรีที่สวยงาม มีลูกเล่นในทุกๆจุดส่วนแบบพอดีๆ คือไม่ได้เรียบง่ายแต่ก็ไม่ได้รกมาก ฟังแล้วมีความสุขไม่ทำร้ายหู อันนี้คงไม่ต้องพูดให้มากความเพราะดนตรีก็เป็นจุดแข็งของพวกพี่ๆเค้าอยู่แล้วสำหรับผม
งาม ในแง่ของอารมณ์เพลงและการถ่ายทอด การถ่ายทอดเรื่องราวความรักในแง่มุมที่ มีความเป็นลบอยู่เล็กๆในด้านของการคาดเดาเรื่องราวที่มันกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จากเหตุปัจจัยแห่งความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนที่ไม่รู้ว่ามันจะอยู่หรือไปเมื่อไหร่ .. เป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้กับคู่รักทุกคู่นะ ผมเชื่อ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยิ่งเชื่อกว่าก็คือ เพลงนี้แม้จะเป็นเรื่องราวหนักแบบนี้ในแง่ลบของจิตใจที่สั่นไหว แต่ทำไมนะ ฟังเพลงแล้ว มันมีอะไรบางอย่างที่สวย”งาม” ซุกซ่อนอยู่ใต้Lyricsนี้ลึกๆว่า มันมีความหวังมีประกายแสงบางอย่างที่จะทำให้ความรักหรือเรื่องราวเหล่านี้มันดำเนินต่อไปได้ ด้วยท่อนฮุคที่แสดงถึงความสุขของช่วงเวลาที่มีกันนี่แหละครับ มันทำให้รู้ว่า คนๆนี้ยังมีความหวังอยู่นะ .. และส่วนตัวผมเองก็เชื่อว่า คนสองคนรักกัน อาจจะกลัวเรื่องแบบนั้นได้ตามธรรมชาติมนุษย์ แต่สิ่งที่เหนือกว่าการ การอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุดแบบที่อย่าให้เสียใจเมื่อวันมันผ่านไป ทำทุกอย่างให้ดี และรักคนรักของเราให้ดีที่สุดในวันนี้แหละครับ วันต่อๆไปจะเป็นยังไงก็ช่างมร่างมันสิ!!! นี่คือสิ่งที่สอดไส้อยู่ในเพลงครับ (พวกพี่ๆทั้งสามคงงง นี่กรูใส่กิมมิคไอ้อารมณ์ช่างมร่างแบบนี้ไว้ในเพลงด้วยเหรอ!? 5555)/ และสุดท้ายคือ ฟิน ไม่ต้องอธิบายครับ ฟินกับเพลงนี้ไปอีกสามชาติ นำไปฟังรวมกับลิสต์เพลงเก่าๆได้อย่างสบายๆเลย
ผมรักพวกพี่ครับ Soul After Six มีคนรองานของพวกพี่ๆอีกเยอะเลย เชื่อผมเหอะ และไม่ว่ากี่ปีเราก็จะรอครับ ออกงานมาบ่อยๆเถอะนะฮะสาธุ -/\-