
Album Review
อัลบัม Guitar and Friends ของ Two Flowers
หัตถาครองพิภพ September 26, 2012
บอกตรงๆว่านี่เป็นบทความรีวิวที่เขียนได้ค่อนข้างยากมากสำหรับผม เพราะที่ผ่านมาก็จะรีวิวเพลงทั่วๆไป ไทยจีนฝรั่งแขก ว่ากันไปตามGenre ของเพลงหรืออัลบั้มนั้น แต่ยังไม่เคยที่จะต้องเขียนถึงงานในลักษณะของเพลงบรรเลง ที่มีแต่เสียงดนตรีเปล่าๆ ไม่มีเนื้อเพลงหรือนักร้องเข้ามาแจมแต่อย่างใด ซึ่งจากการได้เทสต์แล้ว ก็แตกต่างจริงๆซะด้วยเพราะว่าการที่จะเขียนถึงเพลงในอัลบั้มนี้ได้ จำเป็นที่จะต้องเข้าใจถึงความเป็นเพลงนั้นๆก่อน มันไม่ใช่แค่ว่าจะเปิดverseแรก หรือข้ามไปท่อนฮุค ฟังแล้วเอามารีวิวได้เลย แต่งานเพลงในลักษณะเพลงบรรเลงแบบนี้ เราจำเป็นต้องฟังให้จบเพลงในทุกๆเพลง เพื่อซึมซับเอาความรู้สึก เอาฟีลลิ่งของเพลงๆนั้นให้ได้ ว่าเค้าจะสื่อสารอะไร หรือมีข้อความอะไรแอบซ่อนในเพลงนั้นๆ รวมทั้งเทคนิคหรือลูกเล่นที่แตกต่างกัน ที่ใส่ลงมาในเพลงด้วย เพราะงานเพลงในลักษณะนี้นั้น สิ่งที่ศิลปินจะใช้สื่อสารหรือถ่ายทอด ก็คือตัวซาวด์ดนตรีที่เค้าเล่นออกมานั่นล่ะครับ คือสิ่งที่เค้าอยากบอกให้แก่ผู้ฟัง ซึ่งถ้าจะเอาจริงๆ เราก็ต้องฟังพวกนี้ แล้วใช้สิ่งที่เรียกว่า ความรู้สึก รับรู้จากการเสพเสียงพวกนี้ แล้วบรรยายออกมาเป็นตัวอักษร เหมือนที่ผมกำลังจะเขียนถึงดังต่อไปนี้ ค่อนข้างยากทีเดียวล่ะ เพราะจะต้องฟังให้หมดทั้งอัลบั้ม แต่สิ่งหนึ่งที่ผมพอจะบอกได้เกี่ยวกับงานชุดนี้ Guitar and Friends ของสองหนุ่ม Two Flowers ก็พอจะบอกได้เลาๆว่า ไม่เสียแรงที่นั่งฟังอย่างละเอียดจริงๆครับ สมฉายา “กีต้าร์ร้องเพลง” ที่ชื่อไม่ได้ว่าจะได้มาเพราะโชคช่วย แต่เสียงร้องเพลงจากสำเนียงกีต้าร์ของเขาสองคนมันสอดรับกันอย่างลงตัวและสวยงามดั่งดอกไม้จริงๆ

วงนี้ถ้าเป็นในวงการเพลงไทย อาจจะยังไม่โดดเด่นหรือโด่งดังมากเท่าไรในวงกว้างมากนัก แต่ถ้าหากจะลองย้อนไปดูชื่อชั้น หรือเครดิตเก่าๆของสองคนนี้แล้ว ก็ขอบอกเลยว่า ไม่ธรรมดา และคุณจะรู้สึกไม่ธรรมดากว่านั้น ถ้าได้ลองฟังงานทุกๆเพลงในอัลบั้มนี้ หูของคุณจะได้รับสิ่งดีๆเข้าไป”บำบัด” ภายในช่องหู รวมถึงจิตใจของคุณด้วยเลยจริงๆ สองหนุ่มที่ว่านั้นประกอบไปด้วย คุณเมธี ทวีทรัพย์หรือคุณเค อดีตสมาชิก พองพอง และ soundsurfที่เราคุ้นเคยกันดี เป็นอดีตแบ็คอัพให้ปาล์มมี่ อู๋ธรรพ์ณธร ละอองฟอง และยังเรียบเรียง บันทึกเสียงกีต้าร์มาแล้วโชกโชนให้กับศิลปินดังๆนับไม่ถ้วนอย่างนูโว มอส แท่ง ชรัส โฟร์มด The Star AF ฯลฯ สมาชิกอีกคนคือคุณตั้ม ณเอก ธนภาคย์กุลเดช ผู้ทำดนตรีมาแล้วมากมายรวมทั้งยังเป็นอาจารย์สอนดนตรีอีกด้วย ทั้งสองทำเพลงภายใต้คอนเซปต์ที่จะมอบความสวยงามดังเช่นดอกไม้ให้แก่คนฟัง โดยที่ใช้เสียงกีต้าร์ของทั้งสองท่านเป็นตัวสื่อความหมายและถ่ายทอดให้รับรู้และจินตนาการถึงภาพนั้นๆที่จะสื่อออกมาผ่านบทเพลง14 บทเพลงในอัลบั้มเหล่านี้ล้วนมีธีม มีความหมายและอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละเพลง อยากขอแนะนำให้แก่ผู้ที่จะฟังว่า อยากให้ฟังมวลรวมของแต่ละเพลง ฟังแบบฉาบฉวยไม่ได้ จากนั้นให้สัมผัสถึงอารมณ์ที่แต่ละเพลงส่งมา ผ่านเทคนิค ผ่านเมโลดี้ของตัวกีต้าร์อะคูสติคที่เค้าเช่นมาแต่ละโน้ตเพลง ดูจากริธึ่มของกีต้าร์ แต่ละเพลงก็ต่างกันแล้ว และก็ให้อารมณ์ที่ต่างกัน อย่างเพลงแรกสุดของอัลบั้ม จะให้ความรู้สึกสบายๆ โปร่งๆ เหมือนช่วงเวลาหนึ่งวันเช้าจรดเย็นของมนุษย์ที่มีเรื่องราว มีอะไรเข้ามาที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็เป็นการตีความและถ่ายทอดเรื่องของเช้าจรดเย็นในแบบที่สนุกสนาน
ถัดออกมาเพลง ระหว่างทาง วิธีการเล่น สโตรกของการตีคอร์ดเล่นริธึ่มก็จะต่างไปแล้วในเพลงที่สองที่จะเป็นลักษณะน่าค้นหา มีลูกล่อลูกเล่นเยอะหน่อย เพื่อสื่อถึงการดำเนินไปของสิ่งใดสิ่งหนึ่งในชื่อเพลง “ระหว่างทาง” เพลงนี้ก็จะได้กลิ่นสแปนิช กลิ่นอายของละตินเล็กน้อย สมชื่อเพลงระหว่างทาง เพลงก็ยังสนุกๆฟังได้เรื่อยๆไม่เบื่อจนจบเพลงครับ
เพลงถัดไปอย่าง คืนมืดมิด ก็ไม่ได้หดหู่เหมือนชื่อเพลง แต่สามารถฟังเป็นเพลงบำบัดดีๆได้อีกเพลง ซึ่งเพลงนี้ เทคนิคที่นักกีต้าร์ทั้งสองเล่นก็แตกต่างกันออกไปอีก คือไม่ซ้ำซาก และสามารถฟังได้เรื่อยๆแน่ๆ
เพลง เดือด ให้บรรยากาศของท้องทุ่งทะเลทราย ดินแดนอุ้งมือปีศาจที่มีคาวบอยไล่ควบม้าควงปืนลูกโม่ไล่ยิงกัน ระอุดีครับเพลงนี้ ที่น่าสนใจคือเทคนิคที่เค้าใช้ในการเล่นเพลงนี้ทุกลูก ทั้งริธึ่ม เสียงลีด ทุกๆโน้ตที่เล่นลงไป เพลงนี้ลูกเล่นเยอะมาก และ “เก๋า” มากจริงๆ ต้องไปฟังดู
ถัดไป เพลง “ดูรูปเก่า” เพลงนี้แหละครับที่เริ่มเป็นไฮไลท์สำหรับตัวผม เป็นเพลงแรกที่จากการฟังรอบแรก มาสะดุดกึกที่เพลงนี้แหละครับ เพราะการออกแบบเมโลดี้เพลงนี้น่ารักมากกกก ทำให้เรามโนเห็นภาพเก่าๆ เหงาเศร้าออกมาได้ มันมีทั้งเรื่องราวของภาพอดีตอยู่ ภายใต้เปลือกที่สดใส ซึ่ง การเล่นของ Two Flowers ก็สามารถทำออกมาให้มีความเหงาของภาพอดีตที่สดใส ไม่หม่นมากเกินไปนักได้ เพลงนี้สะดุดเลยครับต้องลองฟังดู เริ่มจากเพลงนี้ก่อนเลยก็ได้ ถ้าชอบก็ไล่เพลงฟังลงไปตามtrackในอัลบั้มได้เลย
ตั้งแต่เพลง “ที่ๆมันเคยอยู่” ฟังไล่ลงไปเป็น.. “ฟ้าต่างเมือง” ที่ฟังแล้วรู้สึกเหมือนไปยืนอยู่ในธิเบต เมืองสงบๆท่ามกลางขุนเขาที่มีหิมะปกคลุม อะไรแบบนั้น กลิ่นอายภารตะแบบโลกตะวันออกก็มีเจือปนอยู่ในเพลง “แรงศรัทธา” อยู่ด้วยเล็กๆ ฟังแล้วมันให้อารมณ์ที่ทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์มากจริงๆ เพลงนี้เล่นคอร์ดกันหนักหน่วงมากครับ ต้องฟังจริงๆเพลงนี้ห้ามพลาด / เพลง Guitar and Friends อันนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่นักดนตรีที่สร้างอัลบั้มออกมา มักจะทำกัน นั่นคือการ ปล่อยของ เพลงนี้ของเค้าเด็ดจริงๆ ใส่ลงมาเต็มเหนี่ยวเลยครับ ต้องฟัง เร้าใจมาก
แต่ไฮไลท์อีกเพลงนึงสำหรับผม อยู่ที่เพลงนี้เลยครับ “ยังมีเธอ” แทรคที่11 ในอัลบั้ม นี่ขนาดว่ามันเป็นเพลงบรรเลงกีต้าร์อะคูสติค แต่ผมฟังจนจบเพลงแล้วก็พบว่า มันมีความหมายที่ลึกซึ้ง กว่าเพลงที่ทำส่งๆออกมาบางเพลง ที่แม้จะมีเนื้อร้อง แต่ความหมายของเนื้อร้องตื้นเขินมาก แต่เพลงนี้ มันมีอารมณ์เฝ้าคิดถึงที่ค่อนข้างลึกมาก ฟังแล้วได้อารมณ์ของความเหงาจริงๆ เสียงกีต้าร์ก็เพราะมากเพลงนี้ครับ
เพลงให้ดอกไม้ นี่ก็อีกเพลงที่ชอบมาก ผมชอบท่อนฮุคที่ดีไซน์กีต้าร์ได้น่ารักดี สอดคล้องกับไลน์กีต้าร์พื้นที่คิดมา แถมยังมีโชว์เทพลูกลีดเล็กๆให้ได้ฟังด้วย
สองเพลงสุดท้ายอย่าง กลับบ้าน และ เพื่อขอบคุณ ก็สามารถทำเพลงออกมา ฟังแล้วสามารถสื่อได้ตรงกับชื่อเพลง และสิ่งที่ศิลปินทั้งสองท่านจะนำเสนอจริงๆ
ไม่น่าเชื่อว่า งานเพลงบรรเลงโดยกีต้าร์อะคูสติกสองตัว จะสามารถเล่นออกมาเพื่อสื่อถึงอารมณ์ และความหมายต่างๆของเพลงได้ลึกซึ้งขนาดนี้ เหมือนเป็นภาพวาดที่แตกต่างกัน 14 ภาพวาด ที่บรรจุอยู่ในอัลบั้มงานชิ้นนี้ ที่สำคัญที่สุด งานชิ้นนี้มีคุณค่าในแง่ของการเป็น “ดนตรีบำบัด” ซึ่งสามารถเอาไปเปิดคลอในที่ไหนๆก็ได้ในโลกนี้ เสียงเพลงที่จะไม่มีทางทำร้ายหูของคุณเด็ดขาด งานของสองหนุ่ม Two Flowers ชิ้นนี้ เหมือนมอบดอกไม้ใหญ่ๆช่อหนึ่งให้แก่ผู้ที่จะซื้อมันไปฟัง ฟังแล้วหลับตาเสพงานของพวกเขา แล้วสร้างมันออกมาเป็นภาพของคุณๆด้วยตัวเอง เหมือนที่ผมได้สร้างภาพนี้ขึ้นมาในความรู้สึกเช่นกันครับ