
Movie
ปรสิตโลกสวยและคนซวย2018 รีวิว “Venom” ไปดูเถอะอย่าสนนักวิจารณ์ [7.5/10] Spoiled
หัตถาครองพิภพ October 18, 2018
ปรสิตโลกสวยและคนซวย2018 รีวิว “Venom” ไปดูเถอะอย่าสนนักวิจารณ์ [7.5/10] Spoiled
เป็นหนังอีกเรื่องที่ก่อนฉายโดนกดคะแนนจากเหล่านักวิจารณ์ซะเกินความเป็นจริง จนแทบจะถอดใจไม่ไปดู ทั้งๆที่จริงๆตอนแรกก็ตั้งตาดูอยู่พอควร สำหรับหนังAnti-Hero ล่าสุด กับแมงมุมดำตัวโหดสุดเท่อย่าง “Venom” ซึ่งคำวิจารณ์แรกของหนัง เป็นไปในทิศทางที่ค่อนข้างเป็นแง่ลบพอสมควร แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่คือหนังอีกเรื่องที่แฟนบอยทั่วทั้งพิภพนี้ก็ควรจะไปนั่งดูแบบ ไม่ควรพลาดเลย ด้วยเหตุผลง่ายที่สุดที่มีนั่นก็คือ
“มันสนุกโว้ย”
Venom เป็นหนังที่เล่าเรื่องราวการกำเนิดขึ้นมาของแอนตี้ฮีโร่สีดำสุดเท่เหมือนเป็นแมงมุมตัวชั่วร้าย แต่จริงๆแล้วโลกนี้มันไม่ได้มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนว่าอะไรดีอะไรชั่ว มันมีเพียงแค่ประเด็นว่า ผลลัพธ์ของการกระทำนั้น คุณทำอะไร และได้ผลอะไรมากกว่าจะมานั่งสนใจว่า จะใช้แมวสีอะไรจับหนู ขอเพียงจับหนูได้ แมวสีอะไรก็ถือว่าเป็นแมวที่ดี
แมงมุมก็เช่นกัน ไม่ว่าแมงมุมจะสีอะไร ถ้าจัดการเหล่าร้ายได้ ถือเป็นแมงมุมดี!!
ประเด็นนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ผมชอบมาก เพราะประหนึ่งว่า มันเป็นยอดมนุษย์ที่ไม่ได้เป็นฮีโร่ เป็นคนดีจ๋าๆ ทำวิธีที่ถูกต้องแบบพระเอกๆ แต่Venom คืออีกคนที่ไม่สนวิธีการ แม้ว่ามันจะเป็นการศาลเตี้ย หรือโหดร้ายรุนแรงก็ตาม แต่กับเหล่าร้าย กับคนเลวๆในสังคม บางครั้งมันก็ต้องมีศาลเตี้ยโหดร้ายๆ ที่โดนวิธีรุนแรงในการจัดการเช่นกัน มัวแต่ไปเล่นบทตำรวจดีกับไอ้พวกคนเลวๆในสังคมเหล่านี้ บางครั้งก็จัดการพวกมันไม่ได้หรอก
หนังสะท้อนแง่มุมนี้ชัดเจนผ่านตัวละครฮีโร่สายดาร์คอย่าง Venom ได้เป็นอย่างดีและชัดเจนที่สุดแบบไม่ต้องตีความอะไรมากมาย เมื่อหนังมีฉากการฆ่าคนเลวๆให้เห็น ไม่ต้องมาเป็นคนดีแบบเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ ที่ไม่ยอมฆ่าตัวโกงทั้งหลาย (น่าเบื่อมากกก) และเมื่อการมาเผชิญหน้ากับคนคิดไม่ดีที่มีความคิดสุดโต่งสุดๆอย่างคาร์ลตัน เดรก เจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ซึ่งไม่สนใจมนุษยธรรมใดๆ ใช้วิธีการของตัวเองเพื่อบรรลุผลในความต้องการและความคิดของตัวเอง การจัดการคนแบบนี้ก็ต้องใช้ความสุดโต่งของดาร์คฮีโร่มาจัดการนั่นแหละ
หนังเรื่องVenom มีจุดเด่นที่สุดอยู่ที่ความสนุกของหนังที่มันไปเรื่อยๆและสัมผัสได้ง่ายๆ ความน่ารักของเจ้า Venom ที่เป็นซิมบิโอต เวลาคุยกับเจ้าของร่างอย่าง เอ็ดดี้ บร็อค ที่แสดงโดยทอม ฮาร์ดี้ มันโคตรดี ดูแม่งเข้ากันได้ดีเหมือนเด็กหลังห้องสองคนมานั่งด้วยกัน แล้วมันชวนกันไปแดกเหล้า นั่นแหละครับคือภาพของคำว่า [ We are Venom ] ที่ชัดเจนที่สุด วีน่อมกับ บร็อค เข้าขากันมาก เหมือนหนังแมงมุมเพื่อนรัก สิงร่างกันไปกันมา คุยกันสักพัก แปปเดียวถูกคอ และอยู่ด้วยกันได้ในที่สุด
สเต็ปของหนังที่เข้าใจได้ไม่ยาก ความดีความเลว ความสุดโต่ง ถูกแสดงออกมาในหนังอย่างชัดเจนในแต่ละแง่ ดังนั้นมันค่อนข้างชัดเจนและแบ่งแยกได้ง่ายว่าอะไรคืออะไร ดังนั้นหนังมันจึงเข้าใจง่ายๆมาก และมุกตลกที่ใส่เข้ามาตลอดทั้งเรื่องระหว่าง บทพูดคุยของบร็อคกับเวน่อม และการใส่มาในจังหวะของหนังเรื่อยๆ มันทำให้ความกวนตีนมันผสมเข้ามาในหนังทำให้มันไม่หม่นและดำมืดอะไรขนาดนั้น
กลับเป็นหนังที่สนุกและผ่อนคลายกว่าหนังฮีโร่บางเรื่องด้วยซ้ำ
ใครที่ต้องการเข้าไปดูหนังที่มันสนุกๆ ดูได้เพลินๆลื่นไหล พล็อตเข้าใจง่ายและมีประเด็นที่น่าสนใจ สอดแทรกไว้อย่างง่ายๆ มุกตลกที่คนเอเชียก็เข้าใจได้ง่ายๆ เรื่องนี้บอกเลยว่า ไม่ควรพลาด ส่วนใครที่อยากเห็นVenomเท่ๆ ฉากต่อสู้เท่ๆ เรื่องนี้ก็มีให้ดูเรื่อยๆเช่นกัน โดยเฉพาะฉากฟัดกันระหว่าง Venom กับ Riot นี่ cg ทำออกมาได้ดีเลย ไม่ลอยไม่แย่ ดูแล้วก็ไม่รู้สึกว่าcgมันหลอกแต่อย่างใด ดังนั้น ฉากต่อสู้ กับความสนุก และมุกตลกของหนังนี่ บอกเลยว่า เต็ม100 ขนาดผู้หญิงที่ไปดูเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นแฟนเกิร์ล ไม่ได้ติดตามซุปเปอร์ฮีโร่ เข้าไปดูยังบอกว่าสนุกเลย โดยเฉพาะตัวชูโรงอย่างเจ้าVenomนั่นแหละ ทำให้หนังเรื่องนี้มันดีเกินกว่าคำวิจารณ์ลบที่ได้รับมากๆ
คนที่วิจารณ์ก็กลุ่มเดียวกับที่ด่า BVS นั่นแหละคล้ายๆกัน หนังแย่สำหรับนักวิจารณ์ คนธรรมดาอาจจะดูแล้วสนุกและโอเคกับมันก็ได้ ไม่จำเป็น ต้องไปดูอะไรลึกขนาดนั้น หลายครั้งที่หนังออสการ์ เรารู้ว่ามันดี แต่มันก็ไม่ได้ตอบโจทย์ความสนุกเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่Venomนี่พูดเลยว่า สนุก
ส่วนข้อติของเรื่องนี้ มันก็ต้องมีบ้าง 1. เลยคือ สามารถใส่ฉากบู๊ล้างผลาญให้กับVenomได้มากกว่านี้อีกเยอะ เสียดายว่า อยากจะให้มีฉากอัดกันเท่ๆมากกว่านี้อีกหน่อยจะเวิร์คมาก แต่ก็ถือว่าดีแล้ว ไม่ได้ไม่ดี ส่วนอีกข้อตินึงที่ติดในใจมาตลอดจนถึงออกโรงหนังมาแล้ว นั่นก็คือพล็อตที่มันเบาไปหน่อยเรื่องการกลับใจของ Venom ที่ดูจะชอบร่างต้นที่รวมร่างด้วย และแทนที่จะหาทางยึดโลก เพื่อเผ่าพันธุ์ตัวเองจะได้อยู่รอด ก็กลับไม่ร่วมมือพรรคพวก และหันมาป้องกันโลกซะยังงั้นเพียงเพราะรวมร่างกับมนุษย์แค่ไม่กี่วัน คือมันกลับใจง่ายไป อันนี้คือจุดเดียวจริงๆที่ไม่ชอบ รู้สึกว่ามันง่ายไปหน่อยไม่มีน้ำหนัก แต่นอกเหนือจากนี้ โดยรวมคือ หนังโคตรสนุกมากจริงๆ ดูแล้วเพลินตลอดเรื่อง แม้กระทั่งฉากที่เล่นเรื่องของอารมณ์ ฟีลลิ่งดีพๆ ฉากซึ้งไม่น่าเชื่อระหว่าง บร็อค กับ เวน่อม ก็มี ถือว่าทำได้ดีเลย
สรุปแล้ว ไม่ว่าจะได้รับคำติจากสำนักไหน แต่คำพูดของคนได้ไปดู ในระยะหลังๆส่วนใหญ่ก็ค่อนข้างจะชอบ ถ้าได้ไปดูเอง อย่าไปเชื่อreactionแรกของเหล่าคนที่ได้ดูรอบพรีเมียร์มาก่อน ไม่ว่าจะใคร เวลาจะดูหนังขอให้เราคิดอย่างเดียวว่า “มันเป็นหนังที่เราอยากดูหรือเปล่า” คิดแค่นั้นพอ ถ้าเป็นเรื่องที่อยากดู เราก็ไปดูเถอะ แค่นั้นก็น่าจะเติมเต็มความสุขของเราเกินไปครึ่งนึงแล้ว อย่างน้อยก็ได้ไปดู แล้วดูแล้วมันจะperfect หรือไม่ดีอะไรบ้าง ค่อยมาว่ากันอีกครึ่ง จะดีกว่าเชื่อคำพูดคนอื่น เช่นเดียวกันกับบทความนี้เช่นกัน อาจจะไม่จริงก็ได้ แต่ขอให้คุณลองไปดูหนังด้วยตาตัวเอง นั่นแหละดีที่สุด
อย่าเชื่อนักวิจารณ์หนังให้มากนักจนดูหนังไม่สนุก
เชื่อเถอะ และใครที่ดูแล้วชอบ เตรียมดีใจได้เลยจากการดู End Credit ตัวแรก บอกใบ้ชัดเจนว่า ภาคหน้าน่าจะมี Woody Harrelson นักแสดงเจ้าบทบาทจาก Hunger Games / Now you see me จะมารับบทคาซาดี้ เจ้าของร่างต้นของแมงมุมแดงตัวชั่วร้ายสุดโหด คู่ปรับของVenom นั่นก็คือเจ้า Carnage นั่นเอง ภาคหน้าจะได้วู้ดดี้มาเล่น โคตรรรน่าดูอ่ะบอกเลย
Review Scores : 7.5 / 10 ถือว่าเป็นคะแนนที่ดี หนังสนุก แต่มันอาจจะไม่ได้ถึงกับแบบว่า ดีมากกกก จนต้องให้ 8 คะแนน แต่ 7.5 ก็ถือว่า เป็นคะแนนที่บอกว่า “คุณควรไปดู เพราะมันสนุก”
แล้วคุณจะหลงรัก Venom เหมือนผม