Movie

รีวิว SHAZAM หนังฮีโร่สายฮาที่ดูได้ทุกวัย อาจไม่สะใจแฟนบอยแต่โคตรบันเทิง/เพลิน/สนุก [8/10] Spoiled

หัตถาครองพิภพ April 17, 2019

รีวิว SHAZAM หนังฮีโร่สายฮาที่ดูได้ทุกวัย อาจไม่สะใจแฟนบอยแต่โคตรบันเทิง/เพลิน/สนุก [8/10] Spoiled


         ก่อนอื่นต้องบอกเอาไว้เลยตามที่ขึ้นไว้บนหัวบทความว่า นี่คือหนังฮีโร่ดีๆเรื่องหนึ่งที่ ผู้ชม ควรจะทำความเข้าใจในหน้าหนัง และรูปแบบของมันก่อน ตามที่เขาแสดงเอาไว้ในเทรลเลอร์หนังว่า มันคือหนังฮีโร่สายฮา เน้นตลก และความบันเทิงเพลิดเพลินในการดู ดังนั้นสำหรับแฟนบอยอย่างผม และใครหลายๆคนที่คาดหวังความเป็นหนังฮีโร่จ๋าๆประเภท เตะต่อย ยิงแสงเท่ๆ ปล่อยพลังกันตูมตาม สเปเชียลเอฟเฟ็กสุดยอดอลังการแล้วละก็ บอกได้เลยว่า คุณไปดูผิดเรื่องแล้ว เพราะ Shazam ไม่ใช่หนังฮีโร่แฟนบอยจ๋า ตามหน้าหนังที่เขาปูมาแต่แรก
 

        ใครที่เข้าไปดูแล้วบอกว่ามันห่วยเพราะต่อสู้กันไม่มันส์สะใจ นั่นแปลว่าคุณเข้าไปดูผิดเรื่อง และไม่ได้รับสารที่แท้จริงของผู้สร้างหนังเลยที่เขาแสดงเจตจำนงแต่แรกว่านี่คือฮีโร่สายบันเทิง
 

       
           ดังนั้นก่อนเข้าไปดู ผมจึงไม่ได้คาดหวังฉากต่อสู้ หรืออะไรเท่ๆ พล็อตซีเครียดๆเลยแม้แต่น้อย แต่ผมอยากเข้าไปดูหนังเพลินๆ สนุกๆสบายๆ และไม่ได้คาดหวังกับ “ความฮา” ด้วยซ้ำ เพราะคนอีกประเภทคือ คาดหวังว่า หนังมันจะต้องตลกมาก ฮาสัสๆ ท้องคัดท้องแข็ง นี่ก็ต้องบอกได้อีกครั้งว่า “คุณเข้าไปดูผิดเรื่องแล้ว” เช่นกัน เพราะชาแซมก็ไม่ใช่หนังฮาเต็มขั้นขนาดนั้น แต่คำจำกัดความของหนังเรื่องนี้คือ

 

“หนังสนุกดูบันเทิงในแบบครอบครัวทุกเพศทุกวัยโดยมีธีมรสชาติหนังฮีโร่วัยกระเตาะเป็นฉากหลัง” เท่านั้น
 

        อย่างที่หลายๆคนทราบกัน Shazam นี้คือหนังเปิดศักราชใหม่ของฮีโร่ที่ใครหลายๆคนบนตลาดหนังไม่เคยชมมาก่อน มันคือเรื่องแรกจริงๆ ขนาดเราเองที่ไม่ได้ติดตามขั้นหนักๆก็ยังไม่คุ้นเคยกับชาแซมมากนัก เห็นก็อยู่ในเกมอยู่ในอะไรเท่านั้น คราวนี้มาเป็นเวอร์ชั่นหนังเลย ต้องบอกว่า มันเป็นหนังที่ดีมากที่ “แนะนำ” คนทั้งโลกให้รู้จักกับฮีโร่ฝั่งDCอีกคนหนึ่งที่อยู่ในคอมิคมายาวนาน นี่คือหนังปูพื้นแนะนำตัวให้กับ Shazam ฮีโร่บุรุษเสมือนเหล็ก ที่รูปลักษณ์และพลังดูจะละม้ายคล้ายคลึงกับซุปเปอร์แมนหากจะให้เทียบง่ายๆ แต่จริงๆมันคือการรับพลังจากเทพเจ้า6-7องค์มาไว้ในร่างของแชมเปี้ยนนั่นเอง นำแสดงตัวหลักโดย Zachary Levi ชายผู้มีตัว Z อยู่ในชื่อเหมือนชาแซม ต้องบอกเลยว่า Zacharyเล่นโคตรดี ดีมากๆ คือเขาเล่นเป็นตัวแชมเปี้ยนที่แปลงร่างและรับพลังมาจากพ่อมดแล้ว ก็คือ Shazam นั่นแหละ โดยที่ต้องคีพคาแรคเตอร์ของ บิลลี่ แบทสัน ที่เล่นโดย Asher Angel ในร่างเด็กวัยรุ่นอายุ15นั่นแหละ ซึ่งแซคเล่นได้มีอินเนอร์เด็กๆเข้าไปอยู่ในตัวฮีโร่หุ่นล่ำบึ้กมากๆ อันนี้ต้องขอชมเชย
 

       แต่ที่น่าสนใจและสังเกตอยู่อย่างหนึ่งที่ผมตงิดนิดเดียวคือ รู้สึกว่า ตอนที่เป็นร่างShazam กับตอนที่เป็นร่างของ Billy ปกตินั้น ผมว่านิสัยและคาแรคเตอร์มันไม่แมตช์กันเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่า พอแปลงร่างShazamมันจะขี้เล่น บ้าๆบอๆมากกว่าปกติ ทั้งๆที่หนังปูมาให้บิลลี่เป็นเด็กเก็บกด มีปมมาตลอดเรื่อง ไม่พูดไม่จากับใคร แต่พอแปลงร่างเท่านั้นแหละ เหมือนจะบ้ากว่าปกติจนคิดว่า มันดูไม่ตรงกัน ไม่เป็นคนเดียวกันเท่าไหร่ แต่ติดแค่จุดนี้จุดเดียว นอกนั้นโอเคเพอร์เฟ็คท์ เพราะผมชอบ แซค กับ แอชเชอร์ เล่นมากๆ คนนึงบ้าลดอายุ อีกคนนึงเล่นแล้วนิ่ง ดูมีปมในหัวตลอดเวลาดี ส่วนอีกคนที่ขาดไม่ได้คือ เฟร็ดดี้เพื่อนสนิท โดย Jack Dylan Grazer ซึ่งอยากบอกว่าผมชอบความสดใสในการแสดงของหมอนี่มากๆ หนังเรื่องนี้เอาอยู่ ก็เพราะบทคู่ระหว่าง แซค กับ แจ็ค นี่แหละที่เล่นด้วยกัน ดีงามจริงๆ
 

     
           ซึ่งในด้านของการแสดงนั้น ตัวหลักสามตัว และกลุ่มเด็กๆครอบครัวของบิลลี่ เล่นกันได้ดี และน่ารักทุกๆคน “ผมว่ามันเป็นหนังครอบครัว ซะมากกว่าหนังฮีโร่เสียด้วยซ้ำ” เพราะดูแล้วให้ความรู้สึกที่ดี แสดงให้เห็นถึงความรักระหว่างพี่น้องต่างสายเลือด แสดงให้เห็นถึงปมของคนที่ไม่มีพ่อไม่มีแม่ กำพร้าแบบไม่ตั้งใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ มันสะท้อนได้กินใจดี แม้จะไม่ต้องใส่บทดราม่าน้ำตาไหลมา แต่ช็อตการคุยกันระหว่าง แม่ กับ บิลลี่ ในตอนที่ได้เจอกันอีกครั้ง มันเป็นการเล่นน้อยที่ยากมากเพราะความรู้สึกของนักแสดงสองคนมันต้อง Deep Down ลงไปลึกจริงๆ โดยที่ห้ามไม่ให้มีน้ำตาออกมา มันยากกว่าการมานั่งบีบน้ำตาพรากๆเสียอีก ทำได้ดี
 

        ส่วนในภาคของแอ็คชั่นบู๊เตะต่อยปล่อยแสงแปลงร่าง ที่แฟนบอยหลายคนคาดหวังเอาไว้นั้น คงต้องทำใจไว้เลยว่ามันมีน้อย และก็ไม่ได้มันส์ถึงกึ๋นขนาดนั้นเพราะว่าไม่ใช่แกนหลักสำคัญของเรื่อง แต่ถามว่ามีฉากให้ได้ดูไหม โถ่บอกเลยว่ามีตีกันให้ดูตั้งเยอะ ทั้งกับด็อกเตอร์Sivanaก็สู้กับพระเอกตั้งหลายยก และตัวบาปทั้ง7เองก็มีฉากต่อสู้เบาๆให้ได้ดูกันเพลินๆสนุกๆ ดังนั้นฉากต่อสู้ก็ไม่ถึงกับขาดซะทีเดียว แต่ก็ไม่ได้สะใจในอารมณ์คอฮีโร่จริงๆอันนี้ต้องยอมรับ ถ้าจะให้ดี ภาคหน้าอยากให้เพิ่มสัดส่วนตรงนี้เข้ามาอีกหน่อย จะได้ถูกใจคอหนังแบบครอบคลุม
 

         สิ่งที่ผมชอบที่สุดในตัวหนังShazam ที่เป็นจุดเด่นสุด มันไม่ใช่มุกฮาเลย เพราะมุกในหนังมันก็ทำให้ได้หัวเราะแบบเรื่อยๆน่ารักๆตลอดเวลา แต่มันไม่ได้ถึงกับฮาก๊ากน้ำตาไหลขนาดนั้น แต่มันก็เพลิน และสนุก ทำให้เรายิ้มได้ตลอดเรื่อง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว จะเอาให้มันฮาสักขนาดไหนเชียว ซึ่งการคีพอารมณ์ตลกแบบน่ารักๆเอาไว้ตลอดเรื่อง มันทำให้ผม “มีความสุขกับการดูShazamตลอดสองชั่วโมงมากๆ” มันดูเพลิน น่ารัก และที่สำคัญมันสนุก ดังนั้นจุดแข็งที่สุดของShazamคือ มันบันเทิง ดูเพลิน และสนุก

 

     
             หากคนที่จะให้คะแนน หรือพิจารณาหนังเรื่องนี้ในฐานะที่เป็นหนังฮีโร่ คาดหวังความมันส์ ผมเชื่อว่าเขาคงให้แค่ 6 หรือ 5 แต่ถ้าดูมันในมิติของหนังทั่วๆไปที่ทำมาเพื่อผู้ชมแล้วนั้น Shazamคือสิ่งที่สร้างความบันเทิงให้ผู้ชมได้มีความสุขกลับบ้านไป และยังได้ความเป็นหนังฮีโร่ไปด้วยแบบไม่ได้ขาดตกบกพร่อง อีสเตอร์เอ้กใส่มาให้เรื่อยๆเป็นระยะๆสำหรับคอคอมิคสายแฟนพันธุ์แท้ ซึ่งถ้ามองในแง่ความบันเทิงของการเป็นหนังแล้วนั้น ผมให้คะแนนShazam สูงมาก ในฐานะที่มันตอบโจทย์ความสนุก ความฮาแบบฮีโร่ต๊องๆ น่ารักๆ ตามที่เขานำเสนอในทีเซอร์หนังนั่นแล

 

Review Scores : 8 / 10

         เป็นหนังดีที่ แฟนบอยเองก็ไม่ควรจะพลาดฮีโร่DCที่ทำออกมาแล้วดีขนาดนี้ แถมไม่ต้องดาร์คด้วยก็สนุกได้ (ฮา) ในอนาคต หนังปูไว้แบบหยิกกัดแกมหยอกแย็บๆเอาไว้ ถ้าได้ไปcollabกับพวกฮีโร่ตัวหลักในจักรวาลDC อย่างพี่แบท พี่ซุป ที่ถูกนำมาเป็นreferenceตลอดเวลาในหนังนั้น จะดีมากๆในอนาคต เพราะผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า ถ้าShazamปล่อยเต็มพลัง จะต้านทานพลังเทพของพี่ซุปได้ขนาดไหนในจักรวาลDC หรือจะไม่รวม ทำเป็นหนังแยกไม่ต้องเกี่ยวกับใครแบบนี้ก็ได้ เพราะจะได้ไม่ต้องกดดันและตามรอยมาร์เวล ถ้าถึงเวลา และมีโอกาส ค่อยดึงเข้าไปตอนไหนเป็นตัวละครลับปิดฉากบอสใหญ่ยังได้เลย เพราะทำหนังออกมาแล้วเช่นนี้


ไปดูเถอะครับ ถ้าไม่ดูในโรงจะเสียใจ หนังสนุกมาก

 

SHAZAM