
Movie
ตั๊ก-ฉันทนา ผู้กำกับสาว กับ “หน้าฮ่าน” ภาพยนตร์อีสานที่จะเข้ามาเขย่าความม่วนคักในหัวใจ
YOU2PLAY May 23, 2019
ตั๊ก-ฉันทนา ผู้กำกับสาว กับ “หน้าฮ่าน” ภาพยนตร์อีสานที่จะเข้ามาเขย่าความม่วนคักในหัวใจ

ป๊อปคัลเจอร์ของการเต้นหน้าเวทีหมอลำนั้นถือเป็นสีสันหนึ่งของภาคอีสานอย่างแท้จริง ปัจจุบันเราจะเห็นคลิป มากมายที่แสดงให้เห็นถึงการเต้นที่นับวันยิ่งแอดวานซ์มากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่การทําสะพานโค้งไปจนถึงการตีลังกาปูเสื่อ แม้จะมี แหล่งบันเทิงอีกหลากหลายที่ให้วัยรุ่นได้ไปเที่ยวกัน แตที่ไหนๆ ก็คงไมส่ามารถให้เสน่ห์แบบหน้าฮ่านได้ และนั่นคือสิ่งที่ ตั๊ก ฉันทนา ทิพย์ประชาชาติ ผู้กํากับสาวจะพาเราไปสัมผัส ผ่านภาพยนตร์รักอีสานที่จะทําให้หน้าเวทีหมอลำของคณุลุกเป็นไฟ!
“หน้าฮ่าน” เป็นเรื่องราวของ ยุพิน และพรรคพวกที่เดินทางจากบ้านไปเต้นหน้าเวทีหมอลำเป็นครั้งแรก แต่แทนที่สนุกอย่างใจคิด แฟนของยุพินดันต้องมาเจอแฟนเก่าที่เขายังคิดถึงอยู่เสมอ หน้าเวทีหมอลำจึงไม่ได้มีแต่เรื่องสุขสมหวัง แต่ยังคละเคล้าไปด้วยเรื่องราวมากมาย แตกก่อนจะไปผจญภัยกันในโรงภาพยนตร์ เรามาทําความรู้จักกับผู้กำกับสาวหน้าใหม่ไฟแรงอย่าง ตั๊ก ฉันทนา กันก่อน!!

ภาพยนตร์คือพื้นที่ของการพูด เราเริ่มกํากับหนังในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 ตอนนั้นมีโครงการจากกระทรวงยุติธรรม ประกาศผ่านๆ มาที่หน้าเฟซบุ๊ก ซึ่งในขณะนั้นเราก็อยู่กับเพื่อนๆ ที่เขาทําหนังสั้นตอนปี 1 แต่ละคนก็เก่งกันมากๆ เราเลยชวนเขาเขียนเรื่องส่งประกวด ชื่อเรื่อง Fair Fair เราอาสาเขียนทรีทเมนท์ส่งไป เขียนจากเรื่องที่เราอัดอั้นตันใจนั่นแหละ เพราะช่วงนั้นเป็นคนที่ชอบเอาความโกรธมาเป็น แพสชั่นในการทํางาน พอส่งเรื่องไปแล้วก็ได้รับเลือกให้เข้าไปถ่ายทําเป็นหนังจริงๆ โดยมีพี่ปิง เกรียงไกร วชิรธรรมพร เป็นพี่เลี้ยงดูแลกลุ่มเรา
จนถ่ายทําเสร็จ หนังก็ได้รับรางวัล นี่จึงเป็นเวทีแรกและเป็นรางวัลแรกของเรา จากนั้นพี่ๆ เขาก็แนะนําให้เราส่งหนังไปมูลนิธิ หนังไทย เราเลยถือโอกาสทําหนังสั้นเพิ่มอีกเรื่องชื่อ Status จนหนังไปติดไฟนอลลิสต์ แล้วจึงเริ่มมีคนพูดถึงงานของเรา ทําให้ ส่วนตัวแล้วมีโอกาสได้รู้จักคนทําหนังและนักวิจารณ์มากขึ้นด้วย จนเราเสพติดบรรยากาศการถกเถียงพูดคุย จริงๆ เราอาจจะคิดไปเองแต่ตอนนั้นเรารู้สึกว่าพื้นที่นั้นที่ได้ไปเจอ มันคือความสบายใจจากอิสระที่เราได้พูดในเรื่องที่อยากพูด เราก็เลยทําหนัง มาเรื่อยๆ
ภาพยนตร์ลําดับล่าสดุ “หน้าฮ่าน”
เมื่อปีที่แล้ว เราทําหนังยาวเรื่องแรก ชื่อเรื่อง รัก-ไม่ปรากฏ The Otherness ทําอยู่นานมาก เพราะไม่มีทุนที่จะมาจบโปรเจกต์ เราเลยสมัครไปเป็นศิลปินในพํานักของ Objectif film Singapore อยู่ 2 เดือน เขาก็ให้คําปรึกษาและทุนเล็กๆ น้อยๆ กับเรา ซึ่งเป็นประโยชน์มากๆ กับโปรเจกต์ พอกลับมา เราก็พยายามสานต่อโปรเจกต์นั้นให้จบลงจนได้ แต่ระหวา่งนั้นก็ทํางานประจําไปด้วย แอบไปช่วยพี่ๆ คนอื่นทําหนังในตําแหน่งผู้ช่วยผู้กำกับบ้าง จัดการกองบ้าง แล้วมีพี่อ้วน นคร โพธิ์ไพโรจน์ มาชวนทําเรื่องหน้าฮ่าน เขาอาจจะเห็นว่าเราเป็นคนอีสาน คงเข้าใจวัฒนธรรมอีสานได้ดีที่สุด เราเลยตกลงทันที
อุปสรรค์ทีต่างออกไป VS ความง่ายจากประสบการณ์
ในการกํากับภาพยนตร์เรื่องนี้ ในส่วนของความยากคือ เรื่องทนุสร้างกับสิ่งที่เราอยากได้ ด้วยความที่เราขนทีมงานจากรุงเทพฯ ไปถ่ายทําถึงต่างจังหวัด มันทําให้ยิ่งยากขึ้นไปอีก พอเราอยากได้อะไรก็ต้องมาชั่งน้ำหนักว่าอะไรไม่มีก็ได้หรืออะไรที่ต้องเลือกให้มี อีกเรื่องคือสภาพภูมิอากาศ เราเขียนบทเรื่องนี้นึกไว้ตลอดว่ามันคือหน้าร้อน แดดอุ่นๆ สีของแดดมันทําให้เรื่องมีมู้ดอีกแบบ แต่พอเราออกกองจริงๆ ฝนตกทุกคิว แบบทุกคิวจริงๆ ไม่ตกแค่วันเดย์ออฟแค่นั้นเลย เศร้ามาก แต่ก็ต้องจัดการให้ได้ ต้องคุมให้ ไม่แหกคิว เพราะงบจะแหกไปด้วย
ความง่าย คือเราเป็นคนอีสาน เกิดและโตมากับวัฒนธรรมที่นี่ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เราทํา เราถ่ายทอดมันด้วยความเข้าใจ รวมถึงมีทีมงานที่ดีที่สุด ซึ่งคอยซัพพอร์ทไอเดียเราตลอดเวลา
ความคาดหวัง และความใฝ่ฝัน สำหรับ “หน้าฮ่าน” แค่มีคนไปดู แล้วพูดถึงงานเรา นั่นก็ดีที่สุดแล้ว ส่วนความต้องการหรือความใฝ่ฝันในฐานะผู้กากับ เราก็อยากทําหนังต่อไปเรื่อยๆ อาจจะไม่ได้เป็นอาชีพหลัก แต่การทําหนังคือสิ่งที่เราไม่มีทางอยากเลิกทํา เรารู้สึกว่าหนังมีพลังและ มีผลกับความคิดคน ถ้าทําจนมันพอจะเปลี่ยนอะไรที่เราอยากเปลี่ยนได้ก็คงดี
ภาพยนตร์ไทย ณ ในความคิด
เอาจริงๆ เราก็ไม่ได้สันทัดว่าตอนนี้ภาพยนตร์ไทยอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลงหรือเปล่า แต่เราก็เห็นคนเดินเข้าโรงหนังเพื่อดูหนังไทยเรื่อยๆ นะ ยิ่งต่างจังหวัดยิ่งคึกคัก ถ้าหนังน่าสนใจจริงๆ เขาก็เดินเข้าไปดูกัน เราเองก็พยายามทําให้ได้แบบนั้น ให้คนสนใจ และเข้าไปพิสจูน์มันด้วยตัวเอง
ความง่าย คือเราเป็นคนอีสาน เกิดและโตมากับวัฒนธรรมที่นี่ เพราะฉะนั้นทุกเรื่องที่เราทํา เราถ่ายทอดมันด้วยความเข้าใจ รวมถึงมีทีมงานที่ดีที่สุด ซึ่งคอยซัพพอร์ทไอเดียเราตลอดเวลา
ความคาดหวัง และความใฝ่ฝัน สำหรับ “หน้าฮ่าน” แค่มีคนไปดู แล้วพูดถึงงานเรา นั่นก็ดีที่สุดแล้ว ส่วนความต้องการหรือความใฝ่ฝันในฐานะผู้กากับ เราก็อยากทําหนังต่อไปเรื่อยๆ อาจจะไม่ได้เป็นอาชีพหลัก แต่การทําหนังคือสิ่งที่เราไม่มีทางอยากเลิกทํา เรารู้สึกว่าหนังมีพลังและ มีผลกับความคิดคน ถ้าทําจนมันพอจะเปลี่ยนอะไรที่เราอยากเปลี่ยนได้ก็คงดี
ภาพยนตร์ไทย ณ ในความคิด
เอาจริงๆ เราก็ไม่ได้สันทัดว่าตอนนี้ภาพยนตร์ไทยอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลงหรือเปล่า แต่เราก็เห็นคนเดินเข้าโรงหนังเพื่อดูหนังไทยเรื่อยๆ นะ ยิ่งต่างจังหวัดยิ่งคึกคัก ถ้าหนังน่าสนใจจริงๆ เขาก็เดินเข้าไปดูกัน เราเองก็พยายามทําให้ได้แบบนั้น ให้คนสนใจ และเข้าไปพิสจูน์มันด้วยตัวเอง

ส่วนที่ว่าวงการหนังไทยตอนนี้ต้องการอะไร คนอื่นน่าจะพูดได้ดีกว่าเรา เพราะเราก็เพิ่งเริ่มทํา สิ่งที่เราเจอ คือเรื่องของ คนทํางานที่ต้องใส่ใจรายละเอียดและให้ความสำคัญกับงานที่ทําและรับผิดชอบ ให้ความสําคัญกับคุณภาพงานที่ตัวเองทําทั้งคอนเทนต์และโปรดักชั่น
“หน้าฮ่าน” วัฒนธรรมที่รัก
หน้าฮ่าน คือหนังที่เราทํามาจากความรักต่อวัฒนธรรมที่เราเติบโตมา ชื่นชมและโหยหาชีวิตในวัยรุ่นวัยเด็ก ทั้งของเราและของ เพื่อนๆ หวังว่าทุกคนที่ได้ดูจะอินไปกับมันได้ ไปดูกันเยอะๆ มาแล้วใาพูดคุยกัน เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 9 พฤษภาคมนี้
