Movie

Morbius แอนตี้ฮีโร่ภายนอกดูน่าเกลียด แต่อินเนอร์ของฮีโร่เท่เกินบรรยาย! [Spoiled] 8/10

หัตถาครองพิภพ April 18, 2022

Morbius แอนตี้ฮีโร่ภายนอกดูน่าเกลียด แต่อินเนอร์ของฮีโร่เท่เกินบรรยาย! [Spoiled] 8/10

 

         เราสามารถบอกได้เลยว่า มันคือหนัง Marvel อีกหนึ่งเรื่องที่ควรดูอย่างมาก กับฮีโร่ที่สารรูปดูไม่น่าจะเอามาทำหนังได้มากที่สุดตัวนึง แต่กลายมาเป็นหนังเดี่ยวที่ทำออกมาแล้วเราสามารถรับได้กับรูปลักษณ์ของมัน ในการเป็นแอนตี้ฮีโร่สายเดียวกันกับเวน่อม (แต่น่าเกลียดกว่าเยอะ) ที่เรายังสามารถอินไปกับตัวละครนี้ได้ เนื่องจากอย่างน้อยที่สุด ร่างต้นของแอนตี้ฮีโร่เหล่านี้ที่เป็นตัวเอก ก็ยังมีจิตใจหลักๆที่เป็นคนดีอยู่

 

         แค่ว่าคนดีที่แท้จริง หนังเหล่านี้สะท้อนได้เรียลที่สุดแล้วว่า ไม่จำเป็นที่มนุษย์เราจะต้องดีไปซะทุกประการ เหมือนผ้าขาวทั้งผืน 100% ที่ไม่มีข้อเสียอะไรเลย

 

          ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ มีรัก โลภ โกรธ หลง ทุกคน เช่นเดียวกัน “Michael Morbius” ในหนังเรื่อง Morbius นี้แม้จะเป็นตัวเอก และมีศีลธรรมจรรยาบรรณที่ไม่ต้องการจะฆ่าคน ยอมกินเลือดเทียมเป็นอาหารแต่สุดท้ายแล้ว ในยามที่เขาขาดสติ เขาก็ฆ่าคนไปแล้วเช่นกัน แม้จะเป็นทหารรับจ้างเลวๆ แต่นั่นก็คือชีวิตคนที่ลงมือไปแล้ว / ขณะที่ในอีกมิติหนึ่ง ความดาร์คของมนุษย์ที่ต้องการจะหลุดพ้นสภาวะลำบากในชีวิต ด้วยโรคและความพิการ ทำให้ไมเคิล มอร์เบียส และเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับโรคที่พวกเขาเผชิญด้วยอย่าง “ไมโล” เพื่อนสนิทและตัวร้ายในหนังภาคนี้ จึงเกิดความต้องการที่จะทำอะไรบ้าๆเพื่อพิชิตโรคนี้ให้ได้ ต่อให้เป็นการวิจัยค้างคาวดูดเลือดและพัฒนายามาใช้กับตัวเองก็ตาม

 

         ตรงนี้สะท้อนความดาร์คในใจของมอร์เบียสให้คนดูเห็นกันตั้งแต่ต้นๆเรื่องเลยว่า เขาไม่ได้เป็นพระเอกที่ดี100% แต่เป็นมนุษย์ธรรมดาๆคนนึงเท่านั้นเอง และเราสัมผัสได้ เพราะมันไม่ได้ศีลธรรมจ๋าๆจนเว่อร์ นี่คือข้อดีของหนังสายแอนตี้ฮีโร่ที่ถ่ายทอดตรงนี้ดีมาก เช่นเดียวกับ Venom เหมือนกัน

 

         ในส่วนของเนื้อหาเราจะไม่พูดถึงเยอะ แต่จะกล่าวโดยรวม ประเด็นแรกสุดเลยก็คือ หนังทำ Morbius และการแปลงร่างเป็นฮีโร่ดีเอ็นเอค้างคาวแม่ไก่(ฮา) ออกมาได้อย่างน่าเกลียดจัดๆ เป็นฮีโร่ที่หน้าตาแย่ที่สุดตัวนึงบนโลกนี้ แย่ขนาดว่าเป็นตัวโกงของหนังฮีโร่เรื่องอื่นได้สบายๆ

 

          แต่อย่างที่ขึ้นต้นบทความไว้ หน้าแย่ แต่ความเท่ของฮีโร่ตัวนี้มันเจ๋งอยู่นะ กับท่าวาร์ปไปวาร์ปมาด้วยความเร็วสูง การเคลื่อนที่และพละกำลังก็ถือว่าสมศักดิ์ศรีค้างคาวดูดเลือดอยู่พอควรที่มี “สปีด” เป็นจุดเด่น แถมยังมีความสามารถของโซนาร์ที่ค้างคาวใช้งานจริงๆ อยู่ในฮีโร่ตัวนี้ที่น่าจะบอกได้ว่าเป็น มนุษย์ค้างคาวแท้ๆ ไม่ใช่คนธรรมดาใส่ชุดค้างคาวเหมือนแบทแมนแต่อย่างใด (ฮา ผมติ่งแบทแมนนะครับ)

 

           จาเร็ด เลโต้ กับบทบาทการรับเล่นหนังฮีโร่ของเขา ที่ได้รับบทเด่นคนเดียวโดดๆ ทำออกมาได้ดีมากๆ จาเร็ดคือความดีงามของหนังเรื่องนี้ ด้วยความหล่อเท่กระชากใจคนดูทั้งผู้ชายผู้หญิง พี่แกคือมาหล่อมากๆเอาตอนอายุเยอะขึ้น ช่วงหนุ่มๆก็หล่อแล้วแต่ตอนนี้หล่อแบบไม่บันยะบันยัง แววตา ความอบอุ่น ความเท่ สุดขั้วมากๆในบทหมอไมเคิล มอร์เบียส แต่แปลงร่างที หน้าจาเร็ดก็หายไปเลยจริงๆ -*-

 

           นั่นแหละ แม้ว่าพี่แกจะหล่อมากแค่ไหนก็ตาม แต่ฝีมือการแสดงของเขาก็เป็น “ของจริง” เสมอ ข้อนี้แฟนหนังสายลึกคงจะรู้ฝีมือจาเร็ดกันดีอยู่แล้ว

 

          สิ่งที่ชอบมากๆคือ การเชื่อมจักรวาลมาร์เวลเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ แม้จะเป็นค่ายหนังคนละค่ายกันกับมาร์เวลและดีสนีย์ ทำให้ความฝันของแฟนหนังเป็นจริงมากกว่าเดิม เมื่อตัวตนของสไปดี้และเวน่อม ก็โยงเข้ากันกับมอร์เบียสเรียบร้อยแล้ว ตามที่ได้ไปดูในหนังเรื่องนี้ รวมถึง End Credit ที่ได้เห็นไมเคิล คีตัน อดีตค้างคาวแมนตัวจริง (ฮา แบทแมนยุค90s) มาในฐานะ Vulture จากสไปเดอร์ทอม กลับมารวมทีมกันกับมอร์เบียส เชื่อว่าแฟนๆมาร์เวลและแฟนคอมิคคงจะดีใจแน่ๆ

 

Review Score : 8/10

 

          เป็นหนังฮีโร่ที่ดูเพลินๆ ฉากต่อสู้เท่ๆก็มีให้เห็น ขณะที่หนังเล่าจุดกำเนิดของตัวละครที่เป็นร่างต้นหลักๆในฐานะ ไมเคิล มอร์เบียสได้ดี โดยที่การแปลงร่างเป็นฮีโร่แดกเลือดนั้นคือประเด็นรอง แต่เราโฟกัสที่ตัวตนของคุณหมอไมเคิล มอร์เบียส มากกว่าตัวฮีโร่ซะอีก

 

ถ่ายทอดได้เยี่ยมยอด และภาคต่อไปจะฉูดฉาดกว่านี้แน่นอน เชื่อว่ามีภาคต่อแน่ๆ

Morbius