ดู MV เกิดอีกทีต้องมีเธอ - PAUSE

            ในยุคนั้นศิลปินตัวท็อปๆของช่วงต้นยุค 90s ก็จะมีไม่กี่คนนัก หนึ่งในนั้นชื่อของ “ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง” คือบิ๊กเนมในวงการเพลงไทยสุดๆ เด็กยุคนั้นที่เติบโตมารวมถึงวัยผู้ใหญ่ในยุคนี้ก็คงจะรู้ดีว่าสมัยนั้นพี่ทัชแกดังเปรี้ยงขนาดไหน และนี่คือหนังเรื่องที่ดังสุดๆอีกเรื่องหนึ่งของพี่ทัช ซึ่งมีคู่จิ้น คู่ขวัญอย่าง พี่นิ้ง กุลสตรี ศิริพงษ์ปรีดา เป็นพระนางด้วยกันด้วยในหนังของอาร์เอส ซึ่งเรื่อง “เกิดอีกทีต้องมีเธอ” เป็นอะไรที่โด่งดังมากจริงๆ คอหนังไทยยุคนั้นคงไม่พลาดอยู่แล้ว

            และนี่คือโปรเจกต์ของค่าย ME Records ที่นำเอาเพลงของหนังอาร์เอสยุคนั้นมาทำเป็นสไตล์ใหม่ที่ทันสมัย ด้วยเอกลักษณ์ของศิลปินที่นำมันมาคัฟเวอร์ใหม่อีกครั้ง และเพลง “เกิดอีกทีต้องมีเธอ” ตกมาถึงมือของวง “PAUSE” ที่ได้รับหน้าที่นำเพลงนี้มาถ่ายทอดใหม่ในสไตล์ของพวกเขา

            ต้องบอกว่าเวอร์ชั่นออริจินัลของเพลงนี้มีความกระชับ แข็งแรง ฟังแล้วเกิดพลังงานที่ฮึกเหิมของความรักพอสมควร แต่สิ่งที่เซอไพรส์มากๆคือ วงพอสนำเพลงนี้มาทำให้มีความ “ละมุน” จ๋าๆแบบที่เป็นวงพอสจริงๆ ด้วยสำเนียงละมุนๆของการเกากีต้าร์โปร่งที่เพลินและชิลมากๆ ด้วยVibeเพลงที่ฟังยังไงก็พอสแน่ๆ เมื่อนำเอา Lyric ที่ค่อนข้างจริงจังและเต็มไปด้วยพลังงานในเนื้อเพลงมาใส่ มันทำให้ทุกอย่างดูละเมียดขึ้น ยิ่งเป็นวงพอส ฟังแล้วมันทำให้เรารู้สึกว่า เนื้อเพลงจริงจังๆนี้มันดู “น่าเชื่อถือ” จริงๆ เพราะเป็นวงพอสนั่นเอง

            ช่วงพาร์ทแรกของ “เกิดอีกทีต้องมีเธอ เวอร์ชั่น พอส” ทำออกมาด้วยฟีลลิ่งแบบนุ่มๆ แต่เริ่มมีความแข็งแกร่งมากขึ้นด้วยสำเนียงกีต้าร์ไฟฟ้าที่ลีดมาแบบเท่ๆ และช่วงท้ายนี่คือร็อคมาเลย นึกว่าซันตาน่ามาเอง มันได้ฟีลมากๆ เป็นละตินร็อค สำเนียงแฉลบบลูส์ๆมาแบบนี้คือคลาสสิคมาก

            ที่น่าชื่นชมคือนอกจากดนตรีวงพอสจะเทพมากอยู่แล้วนั้น เสียงร้องของเพ้นท์ก็เอาอยู่ซะด้วย มีความละมุนแต่ก็ไปกับความแข็งแกร่งของเพลงในช่วงพาร์ทท้ายได้ดี ทำให้เพลง “เกิดอีกทีต้องมีเธอ” มันยังคงเป็นเพลงเดิมที่มีความแข็งแกร่ง ฮึกเหิม และจริงจังในความรักมากๆ

            ละมุนแบบแข็งแกร่ง ด้วยเหล้าหอมๆดีกรีแรงๆที่นำมาเขย่าขวดใหม่จนได้รสชาติต่างไปจาก PAUSE